การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายสามารถ แก้วมีชัย เป็นประธาน ในวันนี้ได้เชิญตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มาชี้แจงแนวทาง และความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. และการออกเสียงลงประชามติ ซึ่ง กกต.มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง โดยได้เตรียมการล่วงหน้าไว้ระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งมั่นใจว่า จะสามารถดำเนินการได้ตามกรอบเวลา 75 วัน โดยแบ่งเป็น 60 วันสำหรับการจัดการเลือกตั้ง และอีก 15 วัน สำหรับการประกาศรับรองผล
ขณะที่กรรมาธิการฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า กกต.ไม่สามารถจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ได้ เพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับชัดเจน โดย กกต.จะใช้กฎหมายใดในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร.พร้อมเสนอแนะให้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ร. มารองรับ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดการฟ้องร้องได้ในอนาคต แต่ทั้งนี้เป็นห่วงว่า หากกำหนดกรอบกฎหมายใหม่จะทันตามกรอบเวลาที่กำหนดหรือไม่
นอกจากนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าร่วมรับฟังและเสนอความคิดเห็น ว่าคณะกรรมาธิการควรกำหนดระเบียบการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ให้ชัดเจน ทั้งเรื่องคุณสมบัติ และสิทธิการเลือกตั้งของผู้อาศัยอยู่ในต่างประเทศ เพื่อให้ กกต.นำไปปฏิบัติตาม จะได้ไม่เป็นปัญหาในอนาคต
ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมาธิการ จึงมอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกา หารือร่วมกับ กกต. เพื่อกำหนดระเบียบการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ที่ชัดเจนต่อไป
ขณะที่กรรมาธิการฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า กกต.ไม่สามารถจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ได้ เพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับชัดเจน โดย กกต.จะใช้กฎหมายใดในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร.พร้อมเสนอแนะให้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ร. มารองรับ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดการฟ้องร้องได้ในอนาคต แต่ทั้งนี้เป็นห่วงว่า หากกำหนดกรอบกฎหมายใหม่จะทันตามกรอบเวลาที่กำหนดหรือไม่
นอกจากนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าร่วมรับฟังและเสนอความคิดเห็น ว่าคณะกรรมาธิการควรกำหนดระเบียบการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ให้ชัดเจน ทั้งเรื่องคุณสมบัติ และสิทธิการเลือกตั้งของผู้อาศัยอยู่ในต่างประเทศ เพื่อให้ กกต.นำไปปฏิบัติตาม จะได้ไม่เป็นปัญหาในอนาคต
ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมาธิการ จึงมอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกา หารือร่วมกับ กกต. เพื่อกำหนดระเบียบการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ที่ชัดเจนต่อไป