พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนราธิวาส กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี พ.อ.(พิเศษ) จตุพร กลัมพสุต หัวหน้าคณะทำงานแก้ไขปัญหาภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.กองทัพภาค 4 ส่วนหน้า จ.ปัตตานี ได้สั่งยึดทรัพย์จากร้านประเสริฐอาภรณ์ เลขที่ 6 ถนนสฤษฏ์วงศ์ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก และห้างทองภูสุวรรณ เลขที่ 216 ถนนจารุเสถียร เขตเทศบาล ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากถูกคนร้ายกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบให้การซัดทอดว่า เป็นร้านแลกเงินริงกิตมาเลเซีย เพื่อฟอกเงินให้กับกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดข้ามชาติ นำเงินมาสนับสนุนเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มคนร้ายและกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบ ว่า พ.อ.(พิเศษ)จตุพร สั่งยึดทรัพย์ในวันนั้นด้วยอำนาจกฎอัยการศึก ซึ่งสามารถคุมตัวผู้ต้องหาและยึดทรัพย์สินได้เพียงแค่ 7 วันเท่านั้น
ดังนั้น พ.ต.ท.ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์ ผู้อำนวยสืบสวนทางการเงิน สำนักงาน ปปง. จึงได้ขออนุญาตศาล จ.นราธิวาส ออกหมายจับ เพื่อดำเนินคดีกับนายแสงทิตย์ คติสมสกุล เจ้าของร้านประเสริฐอาภรณ์ กับนายสุริยัน พงษ์มานะวุฒิ เจ้าของห้างทองภู่สุวรรณ ในคดีฟอกเงินให้กลุ่มพ่อค้ายาเสพติดข้ามชาติอีกข้อหาหนึ่ง จากนั้นให้นายแสงทิตย์และนายสุริยันนำหลักฐานถึงการได้มาของทรัพย์สินที่ถูกสั่งตรวจยึดมาแสดง แต่หากไม่มีหลักฐานมาหักล้างข้อกล่าวหา ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินไปตามกฎหมาย
ดังนั้น พ.ต.ท.ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์ ผู้อำนวยสืบสวนทางการเงิน สำนักงาน ปปง. จึงได้ขออนุญาตศาล จ.นราธิวาส ออกหมายจับ เพื่อดำเนินคดีกับนายแสงทิตย์ คติสมสกุล เจ้าของร้านประเสริฐอาภรณ์ กับนายสุริยัน พงษ์มานะวุฒิ เจ้าของห้างทองภู่สุวรรณ ในคดีฟอกเงินให้กลุ่มพ่อค้ายาเสพติดข้ามชาติอีกข้อหาหนึ่ง จากนั้นให้นายแสงทิตย์และนายสุริยันนำหลักฐานถึงการได้มาของทรัพย์สินที่ถูกสั่งตรวจยึดมาแสดง แต่หากไม่มีหลักฐานมาหักล้างข้อกล่าวหา ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินไปตามกฎหมาย