นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์หมอกควันในภาคเหนือ ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นวิกฤต โดย จ.แพร่ มีค่าฝุ่นละอองประมาณ 230 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน ส่วนพื้นที่ จ.เชียงราย มีค่าฝุ่นละอองกว่า 300 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรี และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา และเบื้องต้นได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว โดยจะต้องมีการควบคุมและทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือหยุดเผาทำลายทุกชนิด จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จากปัญหาหมอกควันและไฟป่าทำให้เกิดผลกระทบและอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน หากสูดปริมาณหมอกควันเข้าไปอยู่ในปอดมากๆ จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งได้
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าทุกฝ่ายควรร่วมมือเน้นย้ำ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหยุดการเผาทำลายป่า
พร้อมกันนี้ นายวรวัจน์ เปิดเผยด้วยว่า ได้ประสานไปยัง พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบดำเนินการกวดขันจับกุมผู้ลักลอบเผาป่าทุกพื้นที่ เพื่อลดปัญหาและต้นตอการเกิดหมอกควันในอากาศลง พร้อมทั้งประสานกับอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล นำรถน้ำที่มีอยู่ออกมาช่วยฉีดน้ำตามถนน หรือรดต้นไม้ ทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความชุ่มชื้นในอากาศ ทำให้กลุ่มควันและฝุ่นละอองเกิดการจับตัวและจางลง
ทั้งนี้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง สถานศึกษาต้องให้ข้อมูลถึงภัยและอันตรายจากหมอกควันแก่เด็กนักเรียน นักศึกษา เพื่อนักเรียนจะได้นำไปเผยแพร่แก่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ให้หยุดการเผาทุกรูปแบบ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรี และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา และเบื้องต้นได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว โดยจะต้องมีการควบคุมและทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือหยุดเผาทำลายทุกชนิด จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จากปัญหาหมอกควันและไฟป่าทำให้เกิดผลกระทบและอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน หากสูดปริมาณหมอกควันเข้าไปอยู่ในปอดมากๆ จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งได้
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าทุกฝ่ายควรร่วมมือเน้นย้ำ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหยุดการเผาทำลายป่า
พร้อมกันนี้ นายวรวัจน์ เปิดเผยด้วยว่า ได้ประสานไปยัง พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบดำเนินการกวดขันจับกุมผู้ลักลอบเผาป่าทุกพื้นที่ เพื่อลดปัญหาและต้นตอการเกิดหมอกควันในอากาศลง พร้อมทั้งประสานกับอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล นำรถน้ำที่มีอยู่ออกมาช่วยฉีดน้ำตามถนน หรือรดต้นไม้ ทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความชุ่มชื้นในอากาศ ทำให้กลุ่มควันและฝุ่นละอองเกิดการจับตัวและจางลง
ทั้งนี้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง สถานศึกษาต้องให้ข้อมูลถึงภัยและอันตรายจากหมอกควันแก่เด็กนักเรียน นักศึกษา เพื่อนักเรียนจะได้นำไปเผยแพร่แก่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ให้หยุดการเผาทุกรูปแบบ
