คณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก หรือ แท็บเล็ต สำหรับนักเรียนชั้น ป.1 เตรียมประชุมเร่งรัดกำหนดระเบียบ และครุภัณฑ์ วันพรุ่งนี้ ก่อนเปิดประมูลให้บริษัทเอกชนเสนอราคาขาย ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ กำหนดราคาแท็บเล็ตไม่เกินเครื่องละ 3,000 บาท
น.ส.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการค้าประเทศจีน ระบุว่า ไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลจัดซื้อด้วยวิธีการแลกเปลี่ยนสินค้า เนื่องจากวิธีการนี้มีผู้เกี่ยวข้องหลายขั้นตอน และอาจเปิดโอกาสให้เกิดปัญหากินค่าหัวคิว และตั้งข้อสังเกตว่า การเดินทางมาเยือนของ นายสี จิ้นผิง รองประธานาธิบดีของจีน เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งได้มอบแท็บเล็ตกับไทย เพื่อทดลองใช้ จำนวนไม่กี่ร้อยเครื่อง แต่จีนได้รับโครงการจัดซื้อขนาดใหญ่จากรัฐบาลไทยกลับไปด้วย
ขณะที่ นายนิพนธ์ วงศ์ตระหง่าน อดีตผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อการเกษตร หรือ อ.ต.ก. ระบุว่า การขึ้นบัญชีว่าจะซื้อหรือขายระหว่างรัฐบาล 2 ประเทศ หรือเคาน์เตอร์เทรด ในอดีตนั้นมักจะแฝงด้วยการทุจริต โดยจ่ายเงินใต้โต๊ะเพื่อแลกกับการตีมูลค่าสินค้าให้สูงเกินจริง และไม่เชื่อว่า การแลกเปลี่ยนแท็บเล็ตกับข้าวครั้งนี้จะเกิดปัญหา เนื่องจากจีนอยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านผู้นำใหม่ ประกอบกับเป็นโครงการขนาดใหญ่ ถูกสื่อมวลชนติดตามอย่างใกล้ชิด แต่การแลกเปลี่ยนครั้งนี้อาจทำให้ไทยเสียเปรียบไม่ต่ำกว่า 5-6 หมื่นล้านบาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมระบุว่า การแลกข้าวกับแท็บเล็ต อาจเป็นส่วนหนึ่งของโครงการจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า จำนวน 50 หัว วงเงินกว่า 6.5 พันล้านบาท ขณะนี้ไทย-จีน อยู่ระหว่างการเจรจาหาข้อสรุป
น.ส.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการค้าประเทศจีน ระบุว่า ไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลจัดซื้อด้วยวิธีการแลกเปลี่ยนสินค้า เนื่องจากวิธีการนี้มีผู้เกี่ยวข้องหลายขั้นตอน และอาจเปิดโอกาสให้เกิดปัญหากินค่าหัวคิว และตั้งข้อสังเกตว่า การเดินทางมาเยือนของ นายสี จิ้นผิง รองประธานาธิบดีของจีน เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งได้มอบแท็บเล็ตกับไทย เพื่อทดลองใช้ จำนวนไม่กี่ร้อยเครื่อง แต่จีนได้รับโครงการจัดซื้อขนาดใหญ่จากรัฐบาลไทยกลับไปด้วย
ขณะที่ นายนิพนธ์ วงศ์ตระหง่าน อดีตผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อการเกษตร หรือ อ.ต.ก. ระบุว่า การขึ้นบัญชีว่าจะซื้อหรือขายระหว่างรัฐบาล 2 ประเทศ หรือเคาน์เตอร์เทรด ในอดีตนั้นมักจะแฝงด้วยการทุจริต โดยจ่ายเงินใต้โต๊ะเพื่อแลกกับการตีมูลค่าสินค้าให้สูงเกินจริง และไม่เชื่อว่า การแลกเปลี่ยนแท็บเล็ตกับข้าวครั้งนี้จะเกิดปัญหา เนื่องจากจีนอยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านผู้นำใหม่ ประกอบกับเป็นโครงการขนาดใหญ่ ถูกสื่อมวลชนติดตามอย่างใกล้ชิด แต่การแลกเปลี่ยนครั้งนี้อาจทำให้ไทยเสียเปรียบไม่ต่ำกว่า 5-6 หมื่นล้านบาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมระบุว่า การแลกข้าวกับแท็บเล็ต อาจเป็นส่วนหนึ่งของโครงการจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า จำนวน 50 หัว วงเงินกว่า 6.5 พันล้านบาท ขณะนี้ไทย-จีน อยู่ระหว่างการเจรจาหาข้อสรุป