น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ถึงแนวทางบริหารจัดการน้ำ และการแก้ไขปัญหาในปี 2555 ว่า ปริมาณน้ำเมื่อปี 2554 มีมากถึง 2 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร โดยในช่วงแรกยังไม่มีการวางแผนชะลอน้ำ ส่งผลให้ประตูระบายน้ำได้รับความเสียหาย เนื่องจากไม่สามารถรับปริมาณน้ำจำนวนมากที่ไหลลงมาอย่างรวดเร็วได้
โดยในปี 2555 รัฐบาลจะบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ แบ่งเป็นการบริหารจัดการต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ สำหรับการบริหารจัดการต้นน้ำ จะเน้นไปที่การชะลอน้ำด้วยการปลูกป่า และการทำฝายชะลอน้ำ ในภาคเหนือทั้งหมด แต่สิ่งที่ต้องดำเนินการในขณะนี้ คือ การบริหารจัดการน้ำใน 12 เขื่อน โดยจะปรับการเก็บกักน้ำให้มีปริมาณลดลง จากนั้นจะบริหารจัดการกลางน้ำ คือ ช่วงกลางน้ำเป็นบริเวณที่พื้นที่ต่ำ โดยจะเร่งหาพื้นที่รับน้ำซึ่งมีผลกระทบต่อชุมชนน้อยที่สุด และบูรณะอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ภาคกลางทั้งหมด เพื่อสามารถเก็บกักน้ำได้ดีและมีประสิทธิภาพ ส่วนการบริหารจัดการปลายน้ำ ระยะเร่งด่วนจะทำการเชื่อมลุ่มน้ำทั้งหมด 8 ลุ่มน้ำ เพื่อกระจายปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา
นอกจากนี้ยังทำการซ่อมประตูระบายน้ำที่ชำรุด เพื่อช่วยในการระบายน้ำ ที่สำคัญคือ การขุดลอกคูคลองทั้งหมด เพื่อช่วยให้น้ำระบายลงสู่ทะเลได้เร็วยิ่งขึ้น
โดยในปี 2555 รัฐบาลจะบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ แบ่งเป็นการบริหารจัดการต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ สำหรับการบริหารจัดการต้นน้ำ จะเน้นไปที่การชะลอน้ำด้วยการปลูกป่า และการทำฝายชะลอน้ำ ในภาคเหนือทั้งหมด แต่สิ่งที่ต้องดำเนินการในขณะนี้ คือ การบริหารจัดการน้ำใน 12 เขื่อน โดยจะปรับการเก็บกักน้ำให้มีปริมาณลดลง จากนั้นจะบริหารจัดการกลางน้ำ คือ ช่วงกลางน้ำเป็นบริเวณที่พื้นที่ต่ำ โดยจะเร่งหาพื้นที่รับน้ำซึ่งมีผลกระทบต่อชุมชนน้อยที่สุด และบูรณะอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ภาคกลางทั้งหมด เพื่อสามารถเก็บกักน้ำได้ดีและมีประสิทธิภาพ ส่วนการบริหารจัดการปลายน้ำ ระยะเร่งด่วนจะทำการเชื่อมลุ่มน้ำทั้งหมด 8 ลุ่มน้ำ เพื่อกระจายปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา
นอกจากนี้ยังทำการซ่อมประตูระบายน้ำที่ชำรุด เพื่อช่วยในการระบายน้ำ ที่สำคัญคือ การขุดลอกคูคลองทั้งหมด เพื่อช่วยให้น้ำระบายลงสู่ทะเลได้เร็วยิ่งขึ้น
