นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ หรือ กยอ. มีมติเห็นชอบหลักการออกร่างกฎหมาย 4 ฉบับ เพื่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ และเห็นชอบแผนความต้องการใช้เงินทั้งในส่วนของแผนแม่บทบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ วงเงิน 3 แสน 5 หมื่นล้านบาท รวมทั้งแนวทางการใช้เงินลงทุนฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ 5 เรื่องคือ น้ำ การสร้างความเข้มแข็งให้แก่อุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยพัฒนาพื้นที่ใหม่ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ และพัฒนาธุรกิจประกันภัย โดยได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ยกร่างกฎหมายเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า ในส่วนของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน คาดว่าจะใช้เงิน รวม 2 ล้าน 2 แสน 7 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้มีความต้องการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินเพียง 1 ล้าน 1 แสน 3 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้เงินรายได้หรือเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจ และการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น การจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อลงทุนระบบน้ำ จะใช้วิธีการระดมทุนในประเทศโดยจะกู้เงินภายใน 1 ปีครึ่ง และจัดสรรเงินตามความพร้อมลงทุนของแต่ละโครงการ คาดว่าบางโครงการจะเริ่มลงทุนได้ภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม เพื่อความโปร่งใสของการใช้เงินกู้ดังกล่าว ที่ประชุมเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการกรอบเงินลงทุน โดยมีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน และเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและนักลงทุน รัฐบาลจะชี้แจงรายละเอียดแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และแผนการลงทุนฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ ให้นักลงทุนรับทราบในวันที่ 14 มกราคมนี้
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น การจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อลงทุนระบบน้ำ จะใช้วิธีการระดมทุนในประเทศโดยจะกู้เงินภายใน 1 ปีครึ่ง และจัดสรรเงินตามความพร้อมลงทุนของแต่ละโครงการ คาดว่าบางโครงการจะเริ่มลงทุนได้ภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม เพื่อความโปร่งใสของการใช้เงินกู้ดังกล่าว ที่ประชุมเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการกรอบเงินลงทุน โดยมีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน และเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและนักลงทุน รัฐบาลจะชี้แจงรายละเอียดแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และแผนการลงทุนฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ ให้นักลงทุนรับทราบในวันที่ 14 มกราคมนี้
