กลุ่มผู้ประกอบการของขวัญ ของชำร่วย และของตกแต่งบ้าน ตั้งเป้าไว้ว่า ยอดของการจับจ่ายซื้อของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่น่าจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้แนวโน้มคาดว่า จะปรับตัวลงมาร้อยละ 20 เหลือเพียง 32,000 ล้านบาท เนื่องจากประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จึงลดการซื้อสินค้าฟุ้มเฟือย เพื่อนำเงินไปฟื้นฟูที่อยู่อาศัย นอกจากนี้พฤติกรรมในการซื้อของขวัญในปีนี้ ประชาชนจะเลือกซื้อสินค้าที่มีประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้านที่ทนต่อน้ำ หรืออาหารสด
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมของขวัญ ของชำร่วย และของตกแต่งบ้าน ระบุว่า จากเหตุน้ำท่วมส่งผลต่อการส่งออกด้วย เพราะว่าผู้ประกอบการสินค้าของขวัญ ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการรายย่อย 3,000 รายได้รับผลกระทบ โดยร้อยละ 20 ต้องหยุดการผลิต ขณะที่ร้อยละ 80 ขาดวัตถุดิบในการผลิต ทำให้คาดว่ายอดการส่งออกของปีนี้ จะเหลือเพียง 95,000 ล้าน ขยายตัวเพียงร้อยละ 5 จากเดิมที่คาดไว้ว่าอยู่ที่ร้อยละ 8
ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลเร่งการปล่อยวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงผ่อนปรนเงื่อนไขของธนาคารให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่าย ขณะเดียวกันผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนมากขึ้น เช่นมีความคงทนต่อน้ำ หรือมีการเคลื่อนย้ายได้ง่าย
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมของขวัญ ของชำร่วย และของตกแต่งบ้าน ระบุว่า จากเหตุน้ำท่วมส่งผลต่อการส่งออกด้วย เพราะว่าผู้ประกอบการสินค้าของขวัญ ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการรายย่อย 3,000 รายได้รับผลกระทบ โดยร้อยละ 20 ต้องหยุดการผลิต ขณะที่ร้อยละ 80 ขาดวัตถุดิบในการผลิต ทำให้คาดว่ายอดการส่งออกของปีนี้ จะเหลือเพียง 95,000 ล้าน ขยายตัวเพียงร้อยละ 5 จากเดิมที่คาดไว้ว่าอยู่ที่ร้อยละ 8
ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลเร่งการปล่อยวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงผ่อนปรนเงื่อนไขของธนาคารให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่าย ขณะเดียวกันผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนมากขึ้น เช่นมีความคงทนต่อน้ำ หรือมีการเคลื่อนย้ายได้ง่าย
