สื่อมวลชนประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันตั้งฉายานายตำรวจที่มีบทบาทสำคัญ รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยปีนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ฉายา “กระโถนสลับสี” ซึ่งมีที่มาจากกระแสข่าวปลด พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนเดิม เพื่อให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ได้รับตำแหน่งแทน
ส่วน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ซึ่งมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับพรรคเพื่อไทย และยังได้รับแรงสนับสนุนที่ดีจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัญหาบ่อนกลางกรุงกลายเป็นเหตุผลหลักสำคัญ ทำให้เป็นข้ออ้างเพื่อให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้รับการแต่งตั้ง จึงได้รับฉายาว่า “ผบ.ตร.ป้ายแดง”
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม ที่สนับสนุน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ทุกครั้งที่มีการแถลงข่าว ได้รับฉายา “สปอยเดอร์แมน” สำหรับ พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่ด้านการจราจรเมืองกรุง แต่ถูกโยกออกนอกหน่วยไปภูธร ภาค 3 ได้รับฉายา “จ่าเฉยพลัดถิ่น” ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ได้รับฉายา “เสธ.อู๋ ฟรีแลนซ์” จากการรับหน้าที่ในฐานะเลขา ป.ป.ส.เพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง
ส่วน “ปรากฏการณ์แห่งปี 2554” เป็นของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาแฉปัญหาบ่อนกลางกรุง จนนำไปสู่การโยกย้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในที่สุด
ส่วน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ซึ่งมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับพรรคเพื่อไทย และยังได้รับแรงสนับสนุนที่ดีจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัญหาบ่อนกลางกรุงกลายเป็นเหตุผลหลักสำคัญ ทำให้เป็นข้ออ้างเพื่อให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้รับการแต่งตั้ง จึงได้รับฉายาว่า “ผบ.ตร.ป้ายแดง”
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม ที่สนับสนุน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ทุกครั้งที่มีการแถลงข่าว ได้รับฉายา “สปอยเดอร์แมน” สำหรับ พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่ด้านการจราจรเมืองกรุง แต่ถูกโยกออกนอกหน่วยไปภูธร ภาค 3 ได้รับฉายา “จ่าเฉยพลัดถิ่น” ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ได้รับฉายา “เสธ.อู๋ ฟรีแลนซ์” จากการรับหน้าที่ในฐานะเลขา ป.ป.ส.เพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง
ส่วน “ปรากฏการณ์แห่งปี 2554” เป็นของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาแฉปัญหาบ่อนกลางกรุง จนนำไปสู่การโยกย้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในที่สุด