ประธานาธิบดีดมิตรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย สั่งการให้ทำการตรวจสอบรายงานข้อกล่าวหาที่ว่าพรรคยูไนเต็ด รัสเซียของเขา และนายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ ปูติน มีการโกงการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา จนทำให้ครองเสียงข้างมากในสภาล่างของแดนหมีขาวได้อีกสมัย หลังจากเมื่อวันเสาร์ (10) ประชาชนหลายหมื่นคนได้ชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในกรุงมอสโก และอีกหลายเมืองทั่วประเทศ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเครมลินจัดการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม โฆษกของปูติน ยืนกรานวันจันทร์ (12) ว่า ข้อกล่าวหาต่างๆ ที่ร้องเรียนโดยพวกฝ่ายค้านนั้นจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน
เมดเวเดฟ แสดงปฏิกิริยาต่อกระแสความไม่พอใจของบรรดาผู้ประท้วง ลงในเฟสบุ๊คของเขา ว่า “ผมไม่เห็นด้วยกับสโลแกน หรือ ถ้อยแถลงของกลุ่มผู้ประท้วง แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ผมก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูลทั้งหมดจากหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ตามที่กฎหมายเลือกตั้งอนุญาตแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมดเวเดฟ ไม่ได้เอ่ยถึงข้อเรียกร้องสำคัญของผู้ประท้วงอีกประการหนึ่งที่ต้องการให้ปูตินยุติบทบาททางการเมืองภายในเครมลิน หลังจากที่ปูตินขึ้นมากุมบังเหียนบริหารประเทศตั้งแต่ปี 1999
ท่าทีลายลักษณ์อักษรของเมดเวเดฟครั้งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ผู้นำรัสเซียเริ่มรู้สึกตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมากขึ้น หลังจากที่การประท้วงซึ่งนับว่ารุนแรงที่สุดตั้งแต่เหตุการณ์สหภาพโซเวียตล่มสลาย ส่อเค้าจะบานปลายหนักขึ้นทุกที
กระนั้นก็ตาม บรรดาผู้ประท้วงก็ยังไม่พอใจต่อความพยายามของเมดเวเดฟ และเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอะไรมากกว่าแค่การตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (10) ฝ่ายค้านและแกนนำการประท้วงได้ยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะและจัดการเลือกตั้งใหม่ รวมถึงปลดวลาดิมีร์ ชูรอฟ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งออกจากตำแหน่ง รับจดทะเบียนพรรคฝ่ายค้านต่างๆ ตลอดจนปล่อยผู้ประท้วงที่ถูกจับขังโทษฐานเป็นนักโทษการเมือง
เมดเวเดฟ แสดงปฏิกิริยาต่อกระแสความไม่พอใจของบรรดาผู้ประท้วง ลงในเฟสบุ๊คของเขา ว่า “ผมไม่เห็นด้วยกับสโลแกน หรือ ถ้อยแถลงของกลุ่มผู้ประท้วง แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ผมก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูลทั้งหมดจากหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ตามที่กฎหมายเลือกตั้งอนุญาตแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมดเวเดฟ ไม่ได้เอ่ยถึงข้อเรียกร้องสำคัญของผู้ประท้วงอีกประการหนึ่งที่ต้องการให้ปูตินยุติบทบาททางการเมืองภายในเครมลิน หลังจากที่ปูตินขึ้นมากุมบังเหียนบริหารประเทศตั้งแต่ปี 1999
ท่าทีลายลักษณ์อักษรของเมดเวเดฟครั้งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ผู้นำรัสเซียเริ่มรู้สึกตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมากขึ้น หลังจากที่การประท้วงซึ่งนับว่ารุนแรงที่สุดตั้งแต่เหตุการณ์สหภาพโซเวียตล่มสลาย ส่อเค้าจะบานปลายหนักขึ้นทุกที
กระนั้นก็ตาม บรรดาผู้ประท้วงก็ยังไม่พอใจต่อความพยายามของเมดเวเดฟ และเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอะไรมากกว่าแค่การตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (10) ฝ่ายค้านและแกนนำการประท้วงได้ยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะและจัดการเลือกตั้งใหม่ รวมถึงปลดวลาดิมีร์ ชูรอฟ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งออกจากตำแหน่ง รับจดทะเบียนพรรคฝ่ายค้านต่างๆ ตลอดจนปล่อยผู้ประท้วงที่ถูกจับขังโทษฐานเป็นนักโทษการเมือง