เวลา 19.00 น.วันนี้ (7 ธ.ค.) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงร่วมงานงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดเยี่ยม
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กราบบังคมทูลสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และรายงานเกี่ยวกับของที่ระลึกที่รัฐบาลทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในนามของรัฐบาล
สำหรับของที่ระลึกที่รัฐบาลจะได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ประกอบด้วย พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ภายใต้พระบวรเศวตฉัตรจำลอง หนังสือพระราชดำรัส 7 องค์ พร้อมทั้งทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล สมทบมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ จำนวน 184 ล้านบาท
จากนั้น นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินออกจากห้องสีงาช้าง ไปยังที่ประทับหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อถวายสูจิบัตรแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลในนามของผู้ร่วมงาน
"ขอพระราชกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า มีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ใต้ฝ่าละอองพระบาท เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาทรงเป็นประธานในงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติ ที่รัฐบาลจัดขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคล ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายมีความสำนึกและซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งว่า ตลอดระยะเวลากว่า 65 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จดำรงสิริราชสมบัติ ทรงแสดงให้เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งว่า ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนา ผู้ทรงงานหนัก ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยทศพิธราชธรรมอย่างมั่นคง สม่ำเสมอ ทรงรักและทรงห่วงใยในความทุกข์สุขของราษฎรทุกหมู่เหล่า ทุกเมื่อ ในยามที่พสกนิกรประสบภัยพิบัติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งทรงพระมหากรุณา พระราชทานพระราชทรัพย์ และพระบรมราชานุเคราะห์ แก่ผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ต่อเนื่อง
พระเมตตากรุณาอันกว้างใหญ่ไพศาลที่ทรงมีต่อพสกนิกรมาอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยแปรเปลี่ยนนี้ นำความปลาบปลื้มโสมนัส สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณมาสู่พสกนิกรทั่วประเทศ
เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้ จึงเป็นโอกาสสำคัญที่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ และความจงรักภักดีตลอดทั้งปี
รัฐบาลในนามของประชาชนชาวไทย ได้จัดทำของที่ระลึกทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ประกอบด้วย พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ภายใต้พระบวรเศวตฉัตรจำลอง และหนังสือพระราชดำรัส 7 องค์ พร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณโดยเสด็จพระราชกุศล สมทบทุนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีต่ออาณาประชาราษฎร์ และประเทศชาติ ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา
ณ ศุภวาระมหามงคลนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระราชวโรกาสเชิญชวนผู้ที่ชุมนุมเฝ้าทูลละอองพระบาทอยู่ ณ ที่นี้ ร่วมใจกัน ขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดดลบันดาลประทานพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระบารมีแผ่ไพศาล ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าพสกนิกรตราบนิรันดร์
และข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาต นำผู้มีเกียรติที่มาร่วมในงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรตินี้ ดื่มถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อเป็นสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสืบไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม"
นายกรัฐมนตรี ได้เชิญชวนผู้ร่วมงานดื่มถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก่อนจะเป็นการแสดงดนตรีบรรเลงเฉลิมพระเกียรติ และการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
จากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับนายกรัฐมนตรี ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับในเวลา 20.00 น.
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดเยี่ยม
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กราบบังคมทูลสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และรายงานเกี่ยวกับของที่ระลึกที่รัฐบาลทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในนามของรัฐบาล
สำหรับของที่ระลึกที่รัฐบาลจะได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ประกอบด้วย พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ภายใต้พระบวรเศวตฉัตรจำลอง หนังสือพระราชดำรัส 7 องค์ พร้อมทั้งทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล สมทบมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ จำนวน 184 ล้านบาท
จากนั้น นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินออกจากห้องสีงาช้าง ไปยังที่ประทับหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อถวายสูจิบัตรแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลในนามของผู้ร่วมงาน
"ขอพระราชกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า มีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ใต้ฝ่าละอองพระบาท เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาทรงเป็นประธานในงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติ ที่รัฐบาลจัดขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคล ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายมีความสำนึกและซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งว่า ตลอดระยะเวลากว่า 65 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จดำรงสิริราชสมบัติ ทรงแสดงให้เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งว่า ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนา ผู้ทรงงานหนัก ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยทศพิธราชธรรมอย่างมั่นคง สม่ำเสมอ ทรงรักและทรงห่วงใยในความทุกข์สุขของราษฎรทุกหมู่เหล่า ทุกเมื่อ ในยามที่พสกนิกรประสบภัยพิบัติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งทรงพระมหากรุณา พระราชทานพระราชทรัพย์ และพระบรมราชานุเคราะห์ แก่ผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ต่อเนื่อง
พระเมตตากรุณาอันกว้างใหญ่ไพศาลที่ทรงมีต่อพสกนิกรมาอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยแปรเปลี่ยนนี้ นำความปลาบปลื้มโสมนัส สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณมาสู่พสกนิกรทั่วประเทศ
เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้ จึงเป็นโอกาสสำคัญที่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ และความจงรักภักดีตลอดทั้งปี
รัฐบาลในนามของประชาชนชาวไทย ได้จัดทำของที่ระลึกทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ประกอบด้วย พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ภายใต้พระบวรเศวตฉัตรจำลอง และหนังสือพระราชดำรัส 7 องค์ พร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณโดยเสด็จพระราชกุศล สมทบทุนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีต่ออาณาประชาราษฎร์ และประเทศชาติ ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา
ณ ศุภวาระมหามงคลนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระราชวโรกาสเชิญชวนผู้ที่ชุมนุมเฝ้าทูลละอองพระบาทอยู่ ณ ที่นี้ ร่วมใจกัน ขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดดลบันดาลประทานพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระบารมีแผ่ไพศาล ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าพสกนิกรตราบนิรันดร์
และข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาต นำผู้มีเกียรติที่มาร่วมในงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรตินี้ ดื่มถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อเป็นสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสืบไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม"
นายกรัฐมนตรี ได้เชิญชวนผู้ร่วมงานดื่มถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก่อนจะเป็นการแสดงดนตรีบรรเลงเฉลิมพระเกียรติ และการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
จากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับนายกรัฐมนตรี ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับในเวลา 20.00 น.
