สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงฉลองพระองค์ครุย เสร็จแล้วเสด็จลงจากพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทางบันไดมุขด้านทิศตะวันออก ทรงยืนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทที่พระแท่นหน้ามุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
พร้อมแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออกมุขท้องพระโรงหน้า พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในขณะนั้นเจ้าพนักงานรัวกรับ และเปิดพระวิสูตร เลื่อนพระแท่นที่ประทับไปยังมุขเด็จ ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ผู้บังคับกองผสม สั่งกองผสมตรงหน้าระวังวันทยาวุธ ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว ผู้บังคับกองผสม สั่งกองผสมเรียบอาวุธ
หลังจากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ ความว่า "ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ มีความปีติปราโมชพ้นประมาณที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้มาประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล ในมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 7 รอบ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายสำนึกตระหนักเสมอมาในพระราชจริยวัตร ที่ทรงพระราชอุตสาหะปฏิบัติบำเพ็ญประการทั้งหลายทั้งปวง ก็เพื่อความเจริญร่มเย็น ของอาณาประชาราษฎร์ และความมั่นคงของประเทศชาติเป็นสำคัญ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงผู้มีวาสนาอย่างยิ่ง ที่เกิดมาในแผ่นดินไทย ภายใต้พระบุญญาธิการ จึงได้รับพระบารมีแผ่ปกเกล้าปกกระหม่อมให้มีความสุข ความเจริญ และมีเกียรติยศ เป็นที่เชิดชู ซึ่งต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอยู่ถ้วนหน้า
ในมหามงคลสมัยพิเศษนี้ ข้าพระพุทธเจ้าจึงขอพระราชทานถวายสัตย์ปฏิญาณว่า การใดที่จะเป็นประโยชน์แก่ความผาสุขมั่นคงของประเทศชาติ และประชาชนแล้ว จะมุ่งมั่นปฎิบัติการนั้นจนเต็มกำลังความรู้ ความสามารถ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณด้วยกตัญญูกตเวทิตาจิต และความจงรักภักดั กับขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล
ขออนุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์ จงพร้อมกันอภิบาลใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทให้ ทรงสมบูรณ์ด้วยพลานามัย มีพระราชหฤทัยผ่องแผ้ว ปลอดพ้นจากเรื่องรบกวนกังวล มีพระราชประสงค์จำนงใด ขอจงสำเร็จศุภผลดังพระราชหฤทัยจำนงทุกประการ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"
จบเสด็จพระราชดำเนินขึ้นบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงยืนเฝ้าด้านซ้ายหลังพระราชอาสน์ ส่วน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงยืนเฝ้าด้านขวาหลังพระราชอาสน์
หลังจากนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ความว่า " ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ขอพระราชทานกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละออง ถึงความปลาบปลื้มปีติของปวงข้าพระพุทธเจ้าที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ในวันนี้
ข้าพระพุทธเจ้าและพสกนิกรชาวไทยตระหนักดีว่า ชีวิตทุกวันนี้เย็นศิระเพราะพระบริบาลโดยแท้ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเป็นดวงประทีป และธงชัยนำชีวิตของข้าพระพุทธเจ้าและคนไทยทั้งแผ่นดิน การปฏิบัติตนเพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยความรู้รัก ความสามัคคี จึงเป็นมิ่งมงคล และเป็นความดีงาม ที่พึงยึดถือโดยไม่เว้นวาย นี้คือความรู้สึกอันมีอยู่ในหัวใจข้าพระพุทธเจ้า และพสกนิกรคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง
ในอภิลักขิตมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคมศกนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพคุณพระศรีรัตนตรัย และเทวาดิเทพทั้งมวล ตลอดจนพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ โปรดอภิบาลประทานพรชัยมงคลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสุขทุกทิวาราตรีกาล ปราศจากโรคาพาธ และอุปัทวันตรายทั้งปวง ขอบันดาลพระประสงค์ใดจงสฤษดิ์ดังหวังวรหฤทัยดุจถวาย ชโย
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"
จบแล้ว นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนสมาชิกรัฐสภา ความว่า " ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ในนามของสมาชิกรัฐสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้แทนปวงชนชาวไทย ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส กราบบังคมทูล พระกรุณาแสดงความปลื้มปีติเป็นล้นพ้น เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 อันเป็นวาระสำคัญพิเศษยิ่ง ของพสกนิกรชาวไทยทั้งชาติ ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอตั้งจิตปรารถนาสมานฉันท์ ประกอบกรรมดี ถวายเป็นราชสักการะเฉลิมพระเกียรติเพิ่มพูนพระบุญญาธิการ สมภารบารมีให้เป็นที่สดุดี ปรากฏพระเกียรติยศแผ่ไพศาล ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะเทิดทูนปกปักรักษาราชบัลลังก์ และจะสนองพระราชปณิธานอัญประเสริฐทุกวิถีทาง ให้ประเทศชาติและระบอบประชาธิปไตยดำเนินไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ในโอกาสมหามงคลอันประเสริฐสุดนี้ ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออนุภาพคุณพระรัตนตรัย และเทวาดิเทพน้อยใหญ่ ผู้ปกปักษ์บริรักษ์สยามรัฐศรีมา มีพระสยามเทวาธิราช เป็นอาทิ อีกทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ กอร์ปกับอำนาจแห่งพระราชกุศลบารมีที่ทรงสั่งสมตลอดมาหาประมาณมิได้ จงพร้อมเพรียงกันเกื้อกูลและอภิบาล บำรุงใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทให้ทรงพระเกษมสวัสดี ทรงผ่องแผ้วด้วยพระบุญราศีสูงส่ง ทั้งในพระราชหฤทัย และพระวรกาย อริราชศัตรูหมู่มารทั้งหลาย พ่ายแพ้แก่มหากรุณาอันพิศุทธิ์ไพศาล พระกิตติคุณบุญญาธิการแผ่ไกลในทิศานุทิศ พระราชประสงค์จงสัมฤทธิ์ทุกประการ จงสถิตสถาพรยั่งยืนนานในมไหสุริยะสมบัติ เป็นร่มฉัตรปกประเทศ เป็นบุญเขตรุ่งเรือง ร่มเย็นสำหรับข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย และประชาชาวไทยถ้วนหน้า ได้พึ่ง ได้อาศัย ด้วยความผาสุก สวัสดี ตลอดไปชั่วกาลนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"
จากนั้น นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนข้าราชการตุลาการ ความว่า " ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา ในนามของข้าราชการฝ่ายตุลาการ ที่ปฏิบัติราชการสนองพระเดชพระคุณภายใต้เบื้องพระยุคลธุลีพระบาท ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส กราบบังคมทูลพระกรุณา แสดงความจงรักภักดีปีติโสมนัส เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ผู้ทรงธำรงค์อยู่ในทศพิธราชธรรมในการปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย ทรงเป็นที่เคารพเทิดทูน และเป็นศูนย์รวมจิตใจของอาณาประชาราษฎร์ตลอดมา ในงานด้านศาลสถิตยุติธรรมใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเป็นปราชญ์ในสาขานิติศาสตร์ ทรงเข้าถึงหลักกฎหมาย และความยุติธรรมอย่างถ่องแท้ลึกซึ้ง ดังจะเห็นได้จากพระบรมราโชวาทพระราชดำรัส และแนวพระราชดำริ ที่พระราชทานแก่ข้าราชการตุลาการ และผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายในหลากหลายวาระ ทั้งในเรื่องหลักการ แนวคิด แนวทางการปฏิบัติงาน ตลอดจนการดำรงตน เพื่อให้ทุกคนนำไปยึดถือปฏิบัติบังเกิดผลในการบังคับใช้กฎหมาย เป็นไปเพื่อรักษาความยุติธรรม เป็นหลักชัยสูงสุด
ในมหาสมัยอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าบรรดาข้าราชการฝ่ายตุลาการ ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ตั้งสัตย์ปฏิญญาธิษฐาน จะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ในอันที่จะประสิทธิประสาทความยุติธรรมให้แก่ปวงชนด้วยความเที่ยงธรรม และสุจริตธรรม โดยเต็มความสามารถ พร้อมทั้งขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลบันดาลดลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเจริญพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงเจริญพรั่งพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัยสถิตเป็นมิ่งขวัญแก่ปวงชนชาวไทยตลอดกาลนิรันดร์
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"
หลังจากนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณา กล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ ความว่า " ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วยผู้บัญชาการทหารทุกเหล่าทัพ ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ทหารรักษาพระองค์ และทหารทุกหน่วยทุกเหล่าทัพ ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อไปนี้ ให้ทหารถวายคำสัตย์ปฏิญาณตามข้าพเจ้า
ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ขอถวายคำสัตย์ปฏิญาณ ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ว่า ข้าพระพุทธเจ้า จะยอมตายเพื่อรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ แห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดี และถวายความปลอดภัย ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่ ข้าพระพุทธเจ้าจะเชิดและรักษาไว้ ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจะปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทุกประการ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำรัสตอบ ความว่า " ขอขอบพระทัย และขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกัน มาให้พรวันเกิด รวมทั้งให้คำมั่นสัญญา โดยประการต่างๆ ข้าพเจ้าขอสนองต่อพรและไมตรีจิตทั้งนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน ท่านทั้งหลายในที่นี้ ผู้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญ ทั้งฝ่ายพลเรือนและทหาร ย่อมทราบแก่ใจอยู่ทั่วกันว่า ความมั่นคงของประเทศชาตินั้น จะเกิดมีขึ้นได้ ก็ด้วยประชาชนในชาติอยู่ดีมีสุข ไม่มีทุกข์ยากเข็ญ ทั้งนั้นการได้อ่านใดที่เป็นความทุกข์เดือดร้อนของประชาชน ทุกคน ทุกฝ่ายจึงต้องถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องร่วมมือกัน ปฏิบัติแก้ไขให้เต็มกำลัง โดยเฉพาะขณะนี้ ประชาชนกำลังเดือดร้อนลำบากจากน้ำท่วม จึงขอ จึงชอบที่จะร่วมมือกัน ปัดเป่าแก้ไขให้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และจัดทำโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน อย่างเช่น โครงการต่างๆ ที่เคยพูดไปนั้นเป็นการแนะนำไม่ให้สั่งการ แต่ถ้าเป็นปรึกษากันแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ คุ้มค่า และทำได้ก็ทำ ข้อสำคัญจะต้องไม่ขัดแย้ง แตกแยกกัน หากจะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกันเพื่อให้งานที่ทำบรรลุผลที่มีประโยชน์ เพื่อความผาสุกของประชาชน และความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติ
ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย และอำนวยความสุข ความเจริญแก่ท่านทั่วกัน"
ได้เวลาสมควร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินยังท้องพระโรงหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายน้ำเทพมนต์ และใบสมิท แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ใบมะม่วง ใบทอง และใบตะขบ จำนวน 3 ช่อ ทรงรับและปัดพระองค์แล้ว พระราชทานให้คณะพราหมณ์นำกลับไปทำพิธี ณ โบสถ์พราหมณ์
หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
พร้อมแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออกมุขท้องพระโรงหน้า พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในขณะนั้นเจ้าพนักงานรัวกรับ และเปิดพระวิสูตร เลื่อนพระแท่นที่ประทับไปยังมุขเด็จ ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ผู้บังคับกองผสม สั่งกองผสมตรงหน้าระวังวันทยาวุธ ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว ผู้บังคับกองผสม สั่งกองผสมเรียบอาวุธ
หลังจากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ ความว่า "ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ มีความปีติปราโมชพ้นประมาณที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้มาประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล ในมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 7 รอบ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายสำนึกตระหนักเสมอมาในพระราชจริยวัตร ที่ทรงพระราชอุตสาหะปฏิบัติบำเพ็ญประการทั้งหลายทั้งปวง ก็เพื่อความเจริญร่มเย็น ของอาณาประชาราษฎร์ และความมั่นคงของประเทศชาติเป็นสำคัญ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงผู้มีวาสนาอย่างยิ่ง ที่เกิดมาในแผ่นดินไทย ภายใต้พระบุญญาธิการ จึงได้รับพระบารมีแผ่ปกเกล้าปกกระหม่อมให้มีความสุข ความเจริญ และมีเกียรติยศ เป็นที่เชิดชู ซึ่งต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอยู่ถ้วนหน้า
ในมหามงคลสมัยพิเศษนี้ ข้าพระพุทธเจ้าจึงขอพระราชทานถวายสัตย์ปฏิญาณว่า การใดที่จะเป็นประโยชน์แก่ความผาสุขมั่นคงของประเทศชาติ และประชาชนแล้ว จะมุ่งมั่นปฎิบัติการนั้นจนเต็มกำลังความรู้ ความสามารถ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณด้วยกตัญญูกตเวทิตาจิต และความจงรักภักดั กับขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล
ขออนุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์ จงพร้อมกันอภิบาลใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทให้ ทรงสมบูรณ์ด้วยพลานามัย มีพระราชหฤทัยผ่องแผ้ว ปลอดพ้นจากเรื่องรบกวนกังวล มีพระราชประสงค์จำนงใด ขอจงสำเร็จศุภผลดังพระราชหฤทัยจำนงทุกประการ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"
จบเสด็จพระราชดำเนินขึ้นบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงยืนเฝ้าด้านซ้ายหลังพระราชอาสน์ ส่วน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงยืนเฝ้าด้านขวาหลังพระราชอาสน์
หลังจากนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ความว่า " ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ขอพระราชทานกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละออง ถึงความปลาบปลื้มปีติของปวงข้าพระพุทธเจ้าที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ในวันนี้
ข้าพระพุทธเจ้าและพสกนิกรชาวไทยตระหนักดีว่า ชีวิตทุกวันนี้เย็นศิระเพราะพระบริบาลโดยแท้ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเป็นดวงประทีป และธงชัยนำชีวิตของข้าพระพุทธเจ้าและคนไทยทั้งแผ่นดิน การปฏิบัติตนเพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยความรู้รัก ความสามัคคี จึงเป็นมิ่งมงคล และเป็นความดีงาม ที่พึงยึดถือโดยไม่เว้นวาย นี้คือความรู้สึกอันมีอยู่ในหัวใจข้าพระพุทธเจ้า และพสกนิกรคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง
ในอภิลักขิตมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคมศกนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพคุณพระศรีรัตนตรัย และเทวาดิเทพทั้งมวล ตลอดจนพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ โปรดอภิบาลประทานพรชัยมงคลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสุขทุกทิวาราตรีกาล ปราศจากโรคาพาธ และอุปัทวันตรายทั้งปวง ขอบันดาลพระประสงค์ใดจงสฤษดิ์ดังหวังวรหฤทัยดุจถวาย ชโย
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"
จบแล้ว นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนสมาชิกรัฐสภา ความว่า " ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ในนามของสมาชิกรัฐสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้แทนปวงชนชาวไทย ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส กราบบังคมทูล พระกรุณาแสดงความปลื้มปีติเป็นล้นพ้น เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 อันเป็นวาระสำคัญพิเศษยิ่ง ของพสกนิกรชาวไทยทั้งชาติ ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอตั้งจิตปรารถนาสมานฉันท์ ประกอบกรรมดี ถวายเป็นราชสักการะเฉลิมพระเกียรติเพิ่มพูนพระบุญญาธิการ สมภารบารมีให้เป็นที่สดุดี ปรากฏพระเกียรติยศแผ่ไพศาล ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะเทิดทูนปกปักรักษาราชบัลลังก์ และจะสนองพระราชปณิธานอัญประเสริฐทุกวิถีทาง ให้ประเทศชาติและระบอบประชาธิปไตยดำเนินไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ในโอกาสมหามงคลอันประเสริฐสุดนี้ ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออนุภาพคุณพระรัตนตรัย และเทวาดิเทพน้อยใหญ่ ผู้ปกปักษ์บริรักษ์สยามรัฐศรีมา มีพระสยามเทวาธิราช เป็นอาทิ อีกทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ กอร์ปกับอำนาจแห่งพระราชกุศลบารมีที่ทรงสั่งสมตลอดมาหาประมาณมิได้ จงพร้อมเพรียงกันเกื้อกูลและอภิบาล บำรุงใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทให้ทรงพระเกษมสวัสดี ทรงผ่องแผ้วด้วยพระบุญราศีสูงส่ง ทั้งในพระราชหฤทัย และพระวรกาย อริราชศัตรูหมู่มารทั้งหลาย พ่ายแพ้แก่มหากรุณาอันพิศุทธิ์ไพศาล พระกิตติคุณบุญญาธิการแผ่ไกลในทิศานุทิศ พระราชประสงค์จงสัมฤทธิ์ทุกประการ จงสถิตสถาพรยั่งยืนนานในมไหสุริยะสมบัติ เป็นร่มฉัตรปกประเทศ เป็นบุญเขตรุ่งเรือง ร่มเย็นสำหรับข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย และประชาชาวไทยถ้วนหน้า ได้พึ่ง ได้อาศัย ด้วยความผาสุก สวัสดี ตลอดไปชั่วกาลนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"
จากนั้น นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนข้าราชการตุลาการ ความว่า " ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา ในนามของข้าราชการฝ่ายตุลาการ ที่ปฏิบัติราชการสนองพระเดชพระคุณภายใต้เบื้องพระยุคลธุลีพระบาท ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส กราบบังคมทูลพระกรุณา แสดงความจงรักภักดีปีติโสมนัส เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ผู้ทรงธำรงค์อยู่ในทศพิธราชธรรมในการปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย ทรงเป็นที่เคารพเทิดทูน และเป็นศูนย์รวมจิตใจของอาณาประชาราษฎร์ตลอดมา ในงานด้านศาลสถิตยุติธรรมใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเป็นปราชญ์ในสาขานิติศาสตร์ ทรงเข้าถึงหลักกฎหมาย และความยุติธรรมอย่างถ่องแท้ลึกซึ้ง ดังจะเห็นได้จากพระบรมราโชวาทพระราชดำรัส และแนวพระราชดำริ ที่พระราชทานแก่ข้าราชการตุลาการ และผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายในหลากหลายวาระ ทั้งในเรื่องหลักการ แนวคิด แนวทางการปฏิบัติงาน ตลอดจนการดำรงตน เพื่อให้ทุกคนนำไปยึดถือปฏิบัติบังเกิดผลในการบังคับใช้กฎหมาย เป็นไปเพื่อรักษาความยุติธรรม เป็นหลักชัยสูงสุด
ในมหาสมัยอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าบรรดาข้าราชการฝ่ายตุลาการ ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ตั้งสัตย์ปฏิญญาธิษฐาน จะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ในอันที่จะประสิทธิประสาทความยุติธรรมให้แก่ปวงชนด้วยความเที่ยงธรรม และสุจริตธรรม โดยเต็มความสามารถ พร้อมทั้งขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลบันดาลดลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเจริญพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงเจริญพรั่งพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัยสถิตเป็นมิ่งขวัญแก่ปวงชนชาวไทยตลอดกาลนิรันดร์
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"
หลังจากนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณา กล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ ความว่า " ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วยผู้บัญชาการทหารทุกเหล่าทัพ ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ทหารรักษาพระองค์ และทหารทุกหน่วยทุกเหล่าทัพ ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อไปนี้ ให้ทหารถวายคำสัตย์ปฏิญาณตามข้าพเจ้า
ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ขอถวายคำสัตย์ปฏิญาณ ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ว่า ข้าพระพุทธเจ้า จะยอมตายเพื่อรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ แห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดี และถวายความปลอดภัย ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่ ข้าพระพุทธเจ้าจะเชิดและรักษาไว้ ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจะปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทุกประการ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำรัสตอบ ความว่า " ขอขอบพระทัย และขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกัน มาให้พรวันเกิด รวมทั้งให้คำมั่นสัญญา โดยประการต่างๆ ข้าพเจ้าขอสนองต่อพรและไมตรีจิตทั้งนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน ท่านทั้งหลายในที่นี้ ผู้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญ ทั้งฝ่ายพลเรือนและทหาร ย่อมทราบแก่ใจอยู่ทั่วกันว่า ความมั่นคงของประเทศชาตินั้น จะเกิดมีขึ้นได้ ก็ด้วยประชาชนในชาติอยู่ดีมีสุข ไม่มีทุกข์ยากเข็ญ ทั้งนั้นการได้อ่านใดที่เป็นความทุกข์เดือดร้อนของประชาชน ทุกคน ทุกฝ่ายจึงต้องถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องร่วมมือกัน ปฏิบัติแก้ไขให้เต็มกำลัง โดยเฉพาะขณะนี้ ประชาชนกำลังเดือดร้อนลำบากจากน้ำท่วม จึงขอ จึงชอบที่จะร่วมมือกัน ปัดเป่าแก้ไขให้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และจัดทำโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน อย่างเช่น โครงการต่างๆ ที่เคยพูดไปนั้นเป็นการแนะนำไม่ให้สั่งการ แต่ถ้าเป็นปรึกษากันแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ คุ้มค่า และทำได้ก็ทำ ข้อสำคัญจะต้องไม่ขัดแย้ง แตกแยกกัน หากจะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกันเพื่อให้งานที่ทำบรรลุผลที่มีประโยชน์ เพื่อความผาสุกของประชาชน และความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติ
ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย และอำนวยความสุข ความเจริญแก่ท่านทั่วกัน"
ได้เวลาสมควร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินยังท้องพระโรงหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายน้ำเทพมนต์ และใบสมิท แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ใบมะม่วง ใบทอง และใบตะขบ จำนวน 3 ช่อ ทรงรับและปัดพระองค์แล้ว พระราชทานให้คณะพราหมณ์นำกลับไปทำพิธี ณ โบสถ์พราหมณ์
หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ