พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า คดีปล้นบ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม จับผู้ต้องหาได้แล้ว 7 คน ยังหลบหนีอีก 4 คน รวมทั้ง นายวีระศักดิ์ หรือ โก้ เชื่อลี กุญแจสำคัญด้วย โดยมีคนร้าย 3 คนเข้าปล้นบ้าน และ 1 คนรับฝากเงินปล้นไว้ จากการสอบถาม นายชยทัช หรือ เอก จันนะชัย ลูกชายอดีตเลขาส่วนตัวนายสุพจน์ ให้การว่า เป็นผู้ที่พูดเรื่องเงินจำนวนมากในบ้านนายสุพจน์ให้กลุ่มคนร้ายฟัง แต่ตนไม่ได้เข้าปล้นแต่อย่างใด ยอมรับว่าเพียงแค่พูดคุยเท่านั้น ส่วนกุญแจสำคัญคือ นายโก้ ที่ชักชวนแก๊งนี้เข้าปล้น คาดว่าหลบหนีอยู่ประเทศลาว ซึ่งกำลังประสานเจ้าหน้าที่ฝั่งลาวในการติดตามตัว
ส่วนการฝากขังผู้ต้องหาที่จับกุมได้นั้น เป็นไปตามกฎหมายฝากขังครั้งละ 12 วัน จำนวน 7 ครั้ง ทำให้พนักงานสืบสวนมีเวลาในการทำสำนวนให้รัดกุม และจะมีการประเมินจำนวนเงินที่ปล้นไป จากคำให้การของผู้ต้องหา เชื่อว่าน่าจะได้เงิน 200 ล้านบาท สรุปเงินของกลางที่ยึดมาได้ทั้งหมด 16 ล้าน อีกส่วนอยู่ที่ นายประพันธ์ เรืองเครือ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี อีกประมาณ 9-10 ล้าน รวมเงินที่ปล้นทั้งหมด 25-26 ล้านบาท และต้องเรียกปลัดกระทรวงคมนาคมสอบสวนเพิ่มเติมในข้อเท็จจริงจำนวนเงินที่หาย แต่ขณะนี้ยังไม่เรียกมาสอบสวนเพิ่ม
ขณะที่ พ.ต.ท.โสภณ ยานะธรรม รองผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า ปลัดกระทรวงคมนาคม ไม่ขอกำลังตำรวจเข้าไปดูแลหรือเฝ้าระวังแต่อย่างใด เพียงแต่ส่งสายตรวจตามปกติเท่านั้น ตามแผนการรักษาความปลอดภัยของ สน.
ส่วนการฝากขังผู้ต้องหาที่จับกุมได้นั้น เป็นไปตามกฎหมายฝากขังครั้งละ 12 วัน จำนวน 7 ครั้ง ทำให้พนักงานสืบสวนมีเวลาในการทำสำนวนให้รัดกุม และจะมีการประเมินจำนวนเงินที่ปล้นไป จากคำให้การของผู้ต้องหา เชื่อว่าน่าจะได้เงิน 200 ล้านบาท สรุปเงินของกลางที่ยึดมาได้ทั้งหมด 16 ล้าน อีกส่วนอยู่ที่ นายประพันธ์ เรืองเครือ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี อีกประมาณ 9-10 ล้าน รวมเงินที่ปล้นทั้งหมด 25-26 ล้านบาท และต้องเรียกปลัดกระทรวงคมนาคมสอบสวนเพิ่มเติมในข้อเท็จจริงจำนวนเงินที่หาย แต่ขณะนี้ยังไม่เรียกมาสอบสวนเพิ่ม
ขณะที่ พ.ต.ท.โสภณ ยานะธรรม รองผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า ปลัดกระทรวงคมนาคม ไม่ขอกำลังตำรวจเข้าไปดูแลหรือเฝ้าระวังแต่อย่างใด เพียงแต่ส่งสายตรวจตามปกติเท่านั้น ตามแผนการรักษาความปลอดภัยของ สน.
