ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำดีขึ้นตามลำดับ เนื่องจากคลองสำคัญในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครลดลงแล้ว ส่วนคลองมหาสวัสดิ์ลดลงเล็กน้อย แต่สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือ น้ำก้อนใหญ่จากพื้นที่ศาลายา ที่อาจจะทะลักเพิ่มเข้ามาอีก จำนวน 7.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งรวมกับของเก่าอีกจำนวน 5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งอาจจะทำให้มีน้ำที่จะทะลักเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้งหมดรวม 12.5 ล้านลูกบาศ์เมตรต่อวัน ซึ่งกรณีเองกรุงเทพมหานครอาจจะรับมือไม่ไหว จึงจำเป็นต้องเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ของฝั่งธนบุรี จำนวน 40 เครื่อง ซึ่งทางกรุงเทพมหานครติดตั้งแล้วเสร็จ จำนวน 26 เครื่อง เหลืออีกจำนวน 14 เครื่อง โดยคาดว่าอีก 2 วันจะแล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยเร่งระบายน้ำจากคลองทวีวัฒนาลงคลองภาษีเจริญ ลงแม่น้ำท่าจีนต่อไป
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครอยากเสนอแนะให้มีการสร้างแนวคันกั้นน้ำทั้งสองฝั่ง เพื่อกั้นน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์ ในพื้นที่ของฝั่ง จ.นนทบุรีอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การเปิดประตูระบายน้ำที่คลองพระยาสุเรนทร์ที่วัดหนองใหญ่ อยู่ที่ระดับ 1.05 เมตร ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีผลกระทบกับนิคมอุตสาหกรรมบางชันแต่อย่างใด
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครอยากเสนอแนะให้มีการสร้างแนวคันกั้นน้ำทั้งสองฝั่ง เพื่อกั้นน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์ ในพื้นที่ของฝั่ง จ.นนทบุรีอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การเปิดประตูระบายน้ำที่คลองพระยาสุเรนทร์ที่วัดหนองใหญ่ อยู่ที่ระดับ 1.05 เมตร ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีผลกระทบกับนิคมอุตสาหกรรมบางชันแต่อย่างใด