นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำรายชื่อ 153 ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไป ลงมติไม่ไว้วางใจ เนื่องจาก พล.ต.อ.ประชา ได้กระทำการทุจริต จงใจกระทำผิดรัฐธรรมนูญ และกฎหมายการบริหารราชการแผ่นดิน บกพร่อง ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต ทำให้ประเทศชาติและประชาชนทุกภาคส่วนได้รับความเดือดร้อน นำประเทศไปสู่ความแตกแยก รุนแรง หากปล่อยให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไป จะเกิดความเสียหายแก่ประเทศและประชาชน
หลังจากรับญัตติดังกล่าวแล้ว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติดังกล่าว ต้องมีการประชุมก่อนวันที่ 28 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุมรัฐสภาสามัญทั่วไป คาดว่าอย่างช้าที่สุดจะสามารถเปิดประชุมได้ ในวันที่ 27 พฤศจิกายย ตั้งแต่เวลา 09.30 น. โดยให้สิ้นสุดก่อนเที่ยงและประชุมลงมติ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน เพราะคิดว่าการยื่นญัตติเปิดอภิปรายเพียงคนเดียวเวลาเท่านี้น่าจะเพียงพอ และไม่จำเป็นต้องขยายเวลาในการประชุมสมัยสามัญออกไป แต่จะสามารถเปิดการอภิปรายได้ก่อนวันที่ 27 พฤศจิกายน หรือไม่นั้น ต้องรอดูความเหมาะสมอีกครั้ง
ด้านนายจุรินทร์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านมีความพร้อมในการอภิปราย แม้จะมีพรรคประชาธิปัตย์เพียงพรรคเดียวที่ลงชื่อเสนอญัตติดังกล่าว แต่การกำหนดตัวผู้อภิปราย ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละบุคคล โดยจะต้องกำหนดประเด็นการอภิปรายให้กระชับมากที่สุด เพื่อชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ได้บริหารราชการล้มเหลว รวมถึงจะอภิปรายถึงเรื่องการพยายามยกร่างพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษด้วย
หลังจากรับญัตติดังกล่าวแล้ว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติดังกล่าว ต้องมีการประชุมก่อนวันที่ 28 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุมรัฐสภาสามัญทั่วไป คาดว่าอย่างช้าที่สุดจะสามารถเปิดประชุมได้ ในวันที่ 27 พฤศจิกายย ตั้งแต่เวลา 09.30 น. โดยให้สิ้นสุดก่อนเที่ยงและประชุมลงมติ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน เพราะคิดว่าการยื่นญัตติเปิดอภิปรายเพียงคนเดียวเวลาเท่านี้น่าจะเพียงพอ และไม่จำเป็นต้องขยายเวลาในการประชุมสมัยสามัญออกไป แต่จะสามารถเปิดการอภิปรายได้ก่อนวันที่ 27 พฤศจิกายน หรือไม่นั้น ต้องรอดูความเหมาะสมอีกครั้ง
ด้านนายจุรินทร์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านมีความพร้อมในการอภิปราย แม้จะมีพรรคประชาธิปัตย์เพียงพรรคเดียวที่ลงชื่อเสนอญัตติดังกล่าว แต่การกำหนดตัวผู้อภิปราย ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละบุคคล โดยจะต้องกำหนดประเด็นการอภิปรายให้กระชับมากที่สุด เพื่อชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ได้บริหารราชการล้มเหลว รวมถึงจะอภิปรายถึงเรื่องการพยายามยกร่างพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษด้วย