พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงผลการประชุมสภากลาโหมที่มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในที่ประชุม ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการกำหนดแผนในการปฏิบัติงานป้องกันสถานที่สำคัญ รวมถึงช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งแผนดังกล่าวได้ปฏิบัติตามมติการประชุมคณะรัฐมนตรี คือการป้องกันและดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะป้องกันทุกวิถีทางไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งจะมุ่งเน้นดูแลเรื่องของระบบน้ำประปา ไฟฟ้า การจราจร รวมทั้งการสื่อสาร
ส่วนแผนการอพยพประชาชนในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมนั้น กระทรวงกลาโหมได้อนุมัติจัดเตรียมกำลังพล 50,000 นาย รถและเรืออีกอย่างละกว่า 1,000 คัน รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ในการดูแลประชาชน โดยประสานงานกับกรุงเทพมหานคร และกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ
นอกจากนี้ ต้องพยายามทำทุกทางเพื่อไม่ให้น้ำเข้ามาในพื้นที่ที่จะต้องดูแล
ส่วนแนวทางการปฏิบัติงานฟื้นฟูหลังน้ำลด โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า จะเป็นการขนย้ายผู้ประสบภัยกลับบ้าน ซึ่งแผนการดังกล่าวกระทรวงกลาโหมได้มอบหมายให้กองบัญชาการกองทัพไทยเป็นหน่วยงานหลักที่จะอำนวยการและบูรณาการร่วมกันปฏิบัติงานกับกรุงเทพมหานครต่อไป
ส่วนแผนการอพยพประชาชนในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมนั้น กระทรวงกลาโหมได้อนุมัติจัดเตรียมกำลังพล 50,000 นาย รถและเรืออีกอย่างละกว่า 1,000 คัน รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ในการดูแลประชาชน โดยประสานงานกับกรุงเทพมหานคร และกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ
นอกจากนี้ ต้องพยายามทำทุกทางเพื่อไม่ให้น้ำเข้ามาในพื้นที่ที่จะต้องดูแล
ส่วนแนวทางการปฏิบัติงานฟื้นฟูหลังน้ำลด โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า จะเป็นการขนย้ายผู้ประสบภัยกลับบ้าน ซึ่งแผนการดังกล่าวกระทรวงกลาโหมได้มอบหมายให้กองบัญชาการกองทัพไทยเป็นหน่วยงานหลักที่จะอำนวยการและบูรณาการร่วมกันปฏิบัติงานกับกรุงเทพมหานครต่อไป