นางอำภา รุ่งปิติ รองผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติ ได้จัดโครงการที่อยู่อาศัย จำนวน 25 แห่ง ในทุกภูมิภาค ให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อรองรับผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 30,000 คน รวม 21 โครงการ และ 4 พื้นที่ว่างในศูนย์ชุมชน โดยมีผู้ประสบอุทกภัยเข้าพักพิงแล้ว 7 แห่ง รองรับได้ 7,000 คน และยังมีอีก 18 แห่ง ที่สามารถรองรับได้อีก 23,000 คน ส่วนในพื้นที่กทม.และปริมณฑล มีจำนวน 12 แห่ง พร้อมรองรับได้จำนวน 15,000 คน ติดต่อขอเข้าอยู่ได้ที่การเคหะแห่งชาติ สำนักพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ จ.สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม
ส่วนโครงการบ้านเอื้ออาทร ลาดหลุมแก้ว 3 จ.ปทุมธานี ที่เปิดแฟลต 5 ชั้น เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว และรองรับผู้ประสบอุทกภัยนั้น ขณะนี้ยังสามารถส่งอาหารให้กับผู้ประสบอุทกภัยในชั้น 4 และ 5 ได้ โดยทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คอยดูแลอย่างต่อเนื่อง และยังไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายเหมือนศูนย์พักพิงชั่วคราวของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เพราะผู้ประสบอุทกภัยบางคนไม่ประสงค์จะเคลื่อนย้าย โดยพม.พร้อมสนับสนุนการดำเนินการของศูนย์พักพิงชั่วคราวทุกแห่ง รวมทั้งการเคหะแห่งชาติที่พร้อมอำนวยความสะดวกในทุกด้าน
ส่วนโครงการบ้านเอื้ออาทร ลาดหลุมแก้ว 3 จ.ปทุมธานี ที่เปิดแฟลต 5 ชั้น เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว และรองรับผู้ประสบอุทกภัยนั้น ขณะนี้ยังสามารถส่งอาหารให้กับผู้ประสบอุทกภัยในชั้น 4 และ 5 ได้ โดยทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คอยดูแลอย่างต่อเนื่อง และยังไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายเหมือนศูนย์พักพิงชั่วคราวของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เพราะผู้ประสบอุทกภัยบางคนไม่ประสงค์จะเคลื่อนย้าย โดยพม.พร้อมสนับสนุนการดำเนินการของศูนย์พักพิงชั่วคราวทุกแห่ง รวมทั้งการเคหะแห่งชาติที่พร้อมอำนวยความสะดวกในทุกด้าน
