นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการเปิดเส้นทางคมนาคมทางถนน และทางราง เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง ว่า เส้นทางสายหลักที่เดินทางไปยังภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งบริเวณที่น้ำท่วมจนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ คือถนนพหลโยธิน บริเวณแยกต่างระดับบางปะอิน และบริเวณมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จนถึงอำเภอวังน้อย น้ำท่วมระดับสูง เช่นเดียวกับทางหลวงสายเอเชียที่จะไปนครสวรรค์ น้ำท่วมเป็นช่วงๆ ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และมอเตอร์เวย์สาย 9 จากบางปะอินไปบางบัวทอง น้ำท่วมเป็นระยะๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำหรับการเดินทางโดยทางด่วน รวมถึงทางด่วนจากประชาชื่น-แจ้งวัฒนะ ไปบางปะอินน้ำท่วมตลอดเส้นทาง ตั้งแต่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนถึงบางปะอิน ทำให้เส้นทางสายหลักเดิมไม่สามารถทำได้ ซึ่งหากต้องการเดินทางไปภาคเหนือเส้นทางที่สะดวกที่สุด จะต้องผ่านไปทางนครปฐม ไปทางกำแพงแสน เข้าจังหวัดสุพรรณบุรี และย้อนกลับเข้าสายเอเชียที่จังหวัดอ่างทอง หรือเข้าสายเอเชียที่จังหวัดสิงห์บุรีได้อีก 1 เส้นทาง
สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถเดินทางได้เส้นรังสิต-องครักษ์-นครนายก ผ่านอำเภอบ้านนา ไปออกแก่งคอย จังหวัดสระบุรี แต่ต้องใช้เส้นทางต่างระดับ เนื่องจากแยกอนุสรณ์สถานและรังสิตมีน้ำท่วมขัง รถเล็ก-รถใหญ่ไม่สามารถผ่านไปมาได้ หรืออีกเส้นทางหนึ่ง คือออกไปทางจังหวัดฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม-กบิณบุรี-ปักธงชัย ส่วนทั่วประเทศที่ถูกน้ำท่วมไม่สามารถผ่านได้ของกรมทางหลวง มีจำนวนทั้งสิ้น 80 เส้นทาง เส้นทางกรมทางหลวงชนบท 200 เส้นทาง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สำหรับการฟื้นฟู ขณะนี้กำลังทำแผนการฟื้นฟูโดยแยกเป็น 2 แผน คือ ช่วงน้ำยังไม่ลดเส้นทางไหนสามารถกู้ได้ ก็พยายามดูโดยเฉพาะเส้นทางสายหลัก และเมื่อน้ำลดก็จะเข้าซ่อมแซมทันทีให้ประชาชนได้ใช้ได้สะดวก คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาทที่จะซ่อมแซมให้เปิดการจราจรได้ ส่วนการซ่อมเหมือนเดิมยังไม่สามารถประเมินได้ แต่คาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 20,000-25,000 ล้านบาท
สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถเดินทางได้เส้นรังสิต-องครักษ์-นครนายก ผ่านอำเภอบ้านนา ไปออกแก่งคอย จังหวัดสระบุรี แต่ต้องใช้เส้นทางต่างระดับ เนื่องจากแยกอนุสรณ์สถานและรังสิตมีน้ำท่วมขัง รถเล็ก-รถใหญ่ไม่สามารถผ่านไปมาได้ หรืออีกเส้นทางหนึ่ง คือออกไปทางจังหวัดฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม-กบิณบุรี-ปักธงชัย ส่วนทั่วประเทศที่ถูกน้ำท่วมไม่สามารถผ่านได้ของกรมทางหลวง มีจำนวนทั้งสิ้น 80 เส้นทาง เส้นทางกรมทางหลวงชนบท 200 เส้นทาง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สำหรับการฟื้นฟู ขณะนี้กำลังทำแผนการฟื้นฟูโดยแยกเป็น 2 แผน คือ ช่วงน้ำยังไม่ลดเส้นทางไหนสามารถกู้ได้ ก็พยายามดูโดยเฉพาะเส้นทางสายหลัก และเมื่อน้ำลดก็จะเข้าซ่อมแซมทันทีให้ประชาชนได้ใช้ได้สะดวก คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาทที่จะซ่อมแซมให้เปิดการจราจรได้ ส่วนการซ่อมเหมือนเดิมยังไม่สามารถประเมินได้ แต่คาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 20,000-25,000 ล้านบาท
