เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 21 ต.ค. นายวิม รุ่งวัฒนะจินดา โฆษก ศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่ง 2 ฉบับ ตามพรบ.บรรเทาสาธารณะภัย
คำสั่งแรก ให้กรุงเทพมหานคร บริหารจัดการน้ำ ให้ระบายไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนี้
1. ให้กทม เปิดประตูระบายน้ำ ให้ผ่านการสูบน้ำไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา ให้คำนึงถึงระดับน้ำที่เหมาะสม ไม่ท่วมท้นจนเดือดร้อนชาวกทม.
2. ให้ตั้งคณะกรรมการร่วม ประกอบด้วย กทม. กรมชลประทาน คณะกรรมการที่ตั้งขึ้น เพื่อกำกับระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
3. ให้รายงานผลการดำเนินงาน แก่นายกรัฐมนตรี และศปภ.ทุกวัน กรณีฉุกเฉินให้รายงานทุก 2 ชั่วโมง
คำสั่งที่สองให้ กรมชลประทานระบายน้ำ จากคลองระพีพัฒน์ออกสู่อ่าวไทย คือ ให้กรมชลประทาน เปิดประตูคลอง 2 ถึงคลอง 13 เปิดประตูระบายน้ำคลอง 2 ถึงคลอง 16 ระบายน้ำลงสู่คลองหกวาสายล่าง และคลองแสนแสบ ให้เร่งสูบผลักดันน้ำคลอง 13 เร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลทางด้านตะวันออก
ให้รายงานผลการดำเนินงาน แก่นายกรัฐมนตรี และศปภ.ทุกวัน กรณีฉุกเฉินให้รายงานทุก 2 ชั่วโมง และให้มีการออกมาตรการเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม
ให้ดำเนินการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
คำสั่งแรก ให้กรุงเทพมหานคร บริหารจัดการน้ำ ให้ระบายไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนี้
1. ให้กทม เปิดประตูระบายน้ำ ให้ผ่านการสูบน้ำไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา ให้คำนึงถึงระดับน้ำที่เหมาะสม ไม่ท่วมท้นจนเดือดร้อนชาวกทม.
2. ให้ตั้งคณะกรรมการร่วม ประกอบด้วย กทม. กรมชลประทาน คณะกรรมการที่ตั้งขึ้น เพื่อกำกับระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
3. ให้รายงานผลการดำเนินงาน แก่นายกรัฐมนตรี และศปภ.ทุกวัน กรณีฉุกเฉินให้รายงานทุก 2 ชั่วโมง
คำสั่งที่สองให้ กรมชลประทานระบายน้ำ จากคลองระพีพัฒน์ออกสู่อ่าวไทย คือ ให้กรมชลประทาน เปิดประตูคลอง 2 ถึงคลอง 13 เปิดประตูระบายน้ำคลอง 2 ถึงคลอง 16 ระบายน้ำลงสู่คลองหกวาสายล่าง และคลองแสนแสบ ให้เร่งสูบผลักดันน้ำคลอง 13 เร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลทางด้านตะวันออก
ให้รายงานผลการดำเนินงาน แก่นายกรัฐมนตรี และศปภ.ทุกวัน กรณีฉุกเฉินให้รายงานทุก 2 ชั่วโมง และให้มีการออกมาตรการเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม
ให้ดำเนินการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป