พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการทำงานของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม ในการร่วมแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ว่า เมื่อศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ได้ส่งคำร้องขอความช่วยเหลือมาที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกลาโหม ซึ่งมีศูนย์บรรเทาสาธารณภัยเหล่าทัพทำงานร่วมกัน ก็จะส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปให้การสนับสนุน ศปภ.ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการอพยพ เคลื่อนย้าย การจัดอาหารไปให้ประชาชน โดยเฉพาะจังหวัดที่เกิดวิกฤต เช่น พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ชัยนาท และนครสวรรค์ ทุกแห่งใช้กำลังทหารอย่างเต็มความสามารถ มี พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 และ พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 ลงไปในพื้นที่เอง โดยประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด 24 ชั่วโมง โดยยืนยันว่า มีความพร้อมในการสนับสนุนให้กับรัฐบาลอย่างเต็มที่
ส่วนการเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจนั้น กองทัพได้วางกำลังทุกจุด เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้ากรุงเทพมหานคร โดยดันน้ำไปทางตะวันออก และตะวันตก โดยฝั่งตะวันออกได้ป้องกันไม่ให้น้ำล้นเข้ามาบริเวณรังสิตและเมืองเอก พร้อมดันน้ำไปทางตะวันออกให้มากที่สุด พร้อมให้กรมการทหารช่าง และหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ขุดลอกคลอง 5 คลอง ส่วนทิศตะวันตกอีก 5 คลอง โดยดันน้ำออกทางทะเล ผ่านแม่น้ำแม่กลอง บางปะกง ด้วย ขณะนี้ได้ดำเนินการทุกทางเพื่อผลักดันน้ำให้มากที่สุด ป้องกันไม่ให้ทะลักเข้าพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ ถ้าสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ ฝนไม่ตก และยังรับน้ำได้ในระดับนี้ ยืนยันว่า มีโอกาสน้อยที่น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ แต่ถ้าสถานการณ์ของน้ำเปลี่ยนแปลงไป โดยขอดูมวลน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้ผ่านจังหวัดนครสวรรค์ เข้ามาจังหวัดชัยนาทแล้ว ซึ่งจะมีผลต่อพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี บ้าง แต่หากทุกอย่างปกติ และเพิ่มขึ้นนิดหน่อย ยืนยันว่า กรุงเทพฯ ปลอดภัย
ส่วนการเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจนั้น กองทัพได้วางกำลังทุกจุด เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้ากรุงเทพมหานคร โดยดันน้ำไปทางตะวันออก และตะวันตก โดยฝั่งตะวันออกได้ป้องกันไม่ให้น้ำล้นเข้ามาบริเวณรังสิตและเมืองเอก พร้อมดันน้ำไปทางตะวันออกให้มากที่สุด พร้อมให้กรมการทหารช่าง และหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ขุดลอกคลอง 5 คลอง ส่วนทิศตะวันตกอีก 5 คลอง โดยดันน้ำออกทางทะเล ผ่านแม่น้ำแม่กลอง บางปะกง ด้วย ขณะนี้ได้ดำเนินการทุกทางเพื่อผลักดันน้ำให้มากที่สุด ป้องกันไม่ให้ทะลักเข้าพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ ถ้าสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ ฝนไม่ตก และยังรับน้ำได้ในระดับนี้ ยืนยันว่า มีโอกาสน้อยที่น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ แต่ถ้าสถานการณ์ของน้ำเปลี่ยนแปลงไป โดยขอดูมวลน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้ผ่านจังหวัดนครสวรรค์ เข้ามาจังหวัดชัยนาทแล้ว ซึ่งจะมีผลต่อพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี บ้าง แต่หากทุกอย่างปกติ และเพิ่มขึ้นนิดหน่อย ยืนยันว่า กรุงเทพฯ ปลอดภัย