ศาลยูเครนวันอังคาร(11) พิพากษาว่า อูย์เลีย ติโมเชนโค อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกจากผมเปียถักยาวพันอยู่บนศีรษะของเธอ มีความผิดฐานใช้อำนาจโดยมิชอบในกรณีทำข้อตกลงเรื่องก๊าซกับรัสเซียเมื่อปี 2009 และตัดสินลงโทษจำคุกเธอเป็นเวลา 7 ปี ปรากฏว่าเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้แก่สหภาพยุโรป จนกระทั่งอาจเป็นเหตุขัดขวางการที่ยูเครนจะก้าวเข้าสู่ขั้นตอนแรกของการเป็นสมาชิกอียู ขณะเดียวกันทางด้านมอสโกก็แสดงท่าทีข้องใจการตัดสินนี้
คำพิพากษานี้ยังก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรวดเร็วจากสหภาพยุโรป แคเธอรีน แอชตัน ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของอียู ออกคำแถลงว่า คดีนี้มีความเสี่ยงวที่จะสร้างความยุ่งยากอย่างลึกล้ำให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างอียูกับยูเครน รวมทั้งการบรรลุข้อสรุปในเรื่องการทำ “ข้อตกลงการสมาคม” (Association Agreement) ของยูเครน ทั้งนี้ประเทศใดบรรลุข้อตกลงดังกล่าวกับอียู ก็คือผ่านขั้นตอนแรกของการสมัครเป็นสมาชิกอียู
ทางด้านประธานาธิบดียานูโควิช ก็ออกมาแถลงแก้ต่างว่า คำพิพากษานี้ยังไม่ใช่คำตัดสินขั้นสุดท้าย ยังคงมีกระบวนการอุทธรณ์ เขาบอกว่าเรื่องนี้ทำให้อียูกังวลใจ และยูเครนก็เข้าใจดีว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้ตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2010 ยาคูโนวิชซึ่งถูกฝ่ายตะวันตกมองว่าเป็นพวกหัวเก่าจากยุคสหภาพโซเวียตที่นิยมรัสเซีย ได้พยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ด้วยการประกาศว่าจุดมุ่งหมายหลักของเขาคือการเข้าอียู
ส่วนนายกรัฐมนตรี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเยือนจีน ได้แสดงความเห็นว่า คำพิพากษาเช่นนี้เป็นอันตราย และทำให้เกิดข้อกังขาเกี่ยวกับข้อตกลงก๊าซที่ได้ทำกันไว้
คำพิพากษานี้ยังก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรวดเร็วจากสหภาพยุโรป แคเธอรีน แอชตัน ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของอียู ออกคำแถลงว่า คดีนี้มีความเสี่ยงวที่จะสร้างความยุ่งยากอย่างลึกล้ำให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างอียูกับยูเครน รวมทั้งการบรรลุข้อสรุปในเรื่องการทำ “ข้อตกลงการสมาคม” (Association Agreement) ของยูเครน ทั้งนี้ประเทศใดบรรลุข้อตกลงดังกล่าวกับอียู ก็คือผ่านขั้นตอนแรกของการสมัครเป็นสมาชิกอียู
ทางด้านประธานาธิบดียานูโควิช ก็ออกมาแถลงแก้ต่างว่า คำพิพากษานี้ยังไม่ใช่คำตัดสินขั้นสุดท้าย ยังคงมีกระบวนการอุทธรณ์ เขาบอกว่าเรื่องนี้ทำให้อียูกังวลใจ และยูเครนก็เข้าใจดีว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้ตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2010 ยาคูโนวิชซึ่งถูกฝ่ายตะวันตกมองว่าเป็นพวกหัวเก่าจากยุคสหภาพโซเวียตที่นิยมรัสเซีย ได้พยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ด้วยการประกาศว่าจุดมุ่งหมายหลักของเขาคือการเข้าอียู
ส่วนนายกรัฐมนตรี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเยือนจีน ได้แสดงความเห็นว่า คำพิพากษาเช่นนี้เป็นอันตราย และทำให้เกิดข้อกังขาเกี่ยวกับข้อตกลงก๊าซที่ได้ทำกันไว้