นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่ต้องปิดบริการตรวจรักษาแผนกผู้ป่วยนอกและฉุกเฉิน และงดรับผู้ป่วยในเป็นการชั่วคราว 2 แห่ง เนื่องจากน้ำท่วม คือที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ที่มีระดับน้ำท่วม สูง 2.2 เมตร และโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ซึ่งขณะนี้ยังสามารถดูแลผู้ป่วยในที่มีเหลืออยู่ 490 ราย ในจำนวนนี้อาการหนัก 26 ราย
นอกจากนี้ ขณะนี้ได้ให้โรงพยาบาลปทุมธานี ซึ่งมีความเสี่ยง ได้เตรียมการป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม โดยขณะนี้มีผู้ป่วยหนักต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 28 ราย จะย้ายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ใน กทม. ให้หมดภายในวันนี้ คงเหลือผู้ป่วยที่อาการไม่หนักไว้ดูแลต่อ 336 ราย และยังคงให้บริการตรวจรักษาตามปกติ แต่งดรับผู้ป่วยหนักที่ต้องใช้เครื่องหายใจเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ ทั้งนี้ ได้สำรองออกซิเจนใช้ได้ 3 สัปดาห์ และสำรองยา เวชภัณฑ์ใช้ได้นาน 2 เดือน รวมทั้งอาหารผู้ป่วยด้วย
แต่หากในกรณีที่ป้องกันน้ำท่วมไม่ได้ ได้เตรียมแผนส่งผู้ป่วยที่อาการไม่หนักไปพักที่โรงงานซีพี อ.ลาดหลุมแก้ว นอกจากนี้ได้เตรียมพาหนะลำเลียงผู้ป่วย ทั้งทางรถ ทางเรือ และได้จัดเครื่องสำรองไฟฟ้าไว้พร้อมใช้งานทันที
นอกจากนี้ ขณะนี้ได้ให้โรงพยาบาลปทุมธานี ซึ่งมีความเสี่ยง ได้เตรียมการป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม โดยขณะนี้มีผู้ป่วยหนักต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 28 ราย จะย้ายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ใน กทม. ให้หมดภายในวันนี้ คงเหลือผู้ป่วยที่อาการไม่หนักไว้ดูแลต่อ 336 ราย และยังคงให้บริการตรวจรักษาตามปกติ แต่งดรับผู้ป่วยหนักที่ต้องใช้เครื่องหายใจเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ ทั้งนี้ ได้สำรองออกซิเจนใช้ได้ 3 สัปดาห์ และสำรองยา เวชภัณฑ์ใช้ได้นาน 2 เดือน รวมทั้งอาหารผู้ป่วยด้วย
แต่หากในกรณีที่ป้องกันน้ำท่วมไม่ได้ ได้เตรียมแผนส่งผู้ป่วยที่อาการไม่หนักไปพักที่โรงงานซีพี อ.ลาดหลุมแก้ว นอกจากนี้ได้เตรียมพาหนะลำเลียงผู้ป่วย ทั้งทางรถ ทางเรือ และได้จัดเครื่องสำรองไฟฟ้าไว้พร้อมใช้งานทันที