นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมกับนายกรัฐมนตรี โดยคาดว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ ในวันที่ 13-14 ตุลาคมนี้ จะมีมากถึง 4,500-5,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากนั้น จะมาถึง จ.ชัยนาท และ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 16-17 ตุลาคม มีน้ำปริมาณ 3,600 -3,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่น้ำทะเลหนุนสูงระหว่างวันที่ 13-18 ตุลาคม ดังนั้น กรมชลประทานจึงเสนอแผนป้องกันมวลน้ำขนาดใหญ่ ไม่ให้ไหลเข้าท่วมกรุงเทพมหานคร ด้วยการผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านคลองพระโขนง คลองแสนแสบ ของกรุงเทพฯ และคลองสำโรง ที่ไหลผ่าน จ.สมุทรปราการ และ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกง และทะเลอ่าวไทยต่อไป
ขณะเดียวกัน จะใช้เครื่องผลักดันน้ำที่มีอยู่ ผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาจากฝั่งตะวันตก ผ่านแม่น้ำท่าจีน และผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตะวันออก ผ่านคลองรังสิต ลงสู่แม่น้ำนครนายก ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกง และออกอ่าวไทย
ขณะเดียวกัน จะใช้เครื่องผลักดันน้ำที่มีอยู่ ผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาจากฝั่งตะวันตก ผ่านแม่น้ำท่าจีน และผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตะวันออก ผ่านคลองรังสิต ลงสู่แม่น้ำนครนายก ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกง และออกอ่าวไทย