พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยเกี่ยวกับการความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ของกรุงเทพมหานคร ภายหลังยื่นหนังสือต่อปลัดกรุงเทพมหานคร เพื่อขอเอกสารและหลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับสัญญาการซื้อขาย ตั้งแต่ปี 2550-2554 มาประกอบสำนวน โดยระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสาน และ กทม.ยังไม่ได้ให้เอกสารใดๆ ซึ่งตนมองว่า ต้องให้เวลากับ กทม.ตามกรอบเวลาที่ขอ คือ 3 วัน
ส่วนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี DSI นั้น ได้มีการติดตามความคืบหน้าตลอด และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคน เร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็ว เพราะอยู่ในความสนใจของประชาชน
นอกจากนี้ พ.ต.ท.พงศ์พร ยังกล่าวด้วยว่า ได้เข้าไปตรวจสอบสัญญาการซื้อขายที่ กทม.ระบุว่า ได้มีการเปิดเผยผ่านทางเว็บไซต์ แต่ยืนยันว่า ข้อมูลที่ได้จากเว็บไซต์นั้นไม่มีน้ำหนักเพียงพอต่อการดำเนินการตรวจสอบ และจะนำมาเป็นหลักฐานสำคัญไม่ได้ จึงต้องขอให้ กทม.เร่งทำสำเนาการซื้อขาย โครงการจัดซื้อจัดที่มีลายเซ็นคณะกรรมการอย่างถูกต้อง เพื่อให้ทราบถึงตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคน ก่อนที่ DSI จะเรียกมาสอบสวนเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อมูลที่DSI ตั้งไว้เบื้องต้นก่อนที่จะดำเนินการสอบสวน คือ การจัดซื้อกล้อง CCTV มีราคาแพงเกินจริงหรือไม่ รวมถึงความจำเป็นที่ต้องติดตั้งกล้อง ดัมมี่ หรือ กล้องหลอก
ส่วนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี DSI นั้น ได้มีการติดตามความคืบหน้าตลอด และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคน เร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็ว เพราะอยู่ในความสนใจของประชาชน
นอกจากนี้ พ.ต.ท.พงศ์พร ยังกล่าวด้วยว่า ได้เข้าไปตรวจสอบสัญญาการซื้อขายที่ กทม.ระบุว่า ได้มีการเปิดเผยผ่านทางเว็บไซต์ แต่ยืนยันว่า ข้อมูลที่ได้จากเว็บไซต์นั้นไม่มีน้ำหนักเพียงพอต่อการดำเนินการตรวจสอบ และจะนำมาเป็นหลักฐานสำคัญไม่ได้ จึงต้องขอให้ กทม.เร่งทำสำเนาการซื้อขาย โครงการจัดซื้อจัดที่มีลายเซ็นคณะกรรมการอย่างถูกต้อง เพื่อให้ทราบถึงตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคน ก่อนที่ DSI จะเรียกมาสอบสวนเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อมูลที่DSI ตั้งไว้เบื้องต้นก่อนที่จะดำเนินการสอบสวน คือ การจัดซื้อกล้อง CCTV มีราคาแพงเกินจริงหรือไม่ รวมถึงความจำเป็นที่ต้องติดตั้งกล้อง ดัมมี่ หรือ กล้องหลอก