นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภาวะเงินเฟ้อในประเทศปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน เกิดจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งไม่ได้เกิดจากอุปสงค์ส่วนเกินในประเทศ หากทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ก็เชื่อว่าจะไม่เกิดผล และจะทำให้เงินทุนไหลเข้าเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงเป็นภาระต่อต้นทุนภาคเอกชน ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น จนเป็นแรงกดดันให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ธปท.ควรมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเงินฝากในระบบมีมากกว่าเงินที่ใช้ในการลงทุน
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า อยากให้ทาง ธปท.ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายกระจายรายได้ของรัฐบาลให้กับประชาชน เพราะหากปรับขึ้นไปอาจเป็นภาระเพิ่มให้กับผู้ประกอบการ
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ธปท.ควรมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเงินฝากในระบบมีมากกว่าเงินที่ใช้ในการลงทุน
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า อยากให้ทาง ธปท.ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายกระจายรายได้ของรัฐบาลให้กับประชาชน เพราะหากปรับขึ้นไปอาจเป็นภาระเพิ่มให้กับผู้ประกอบการ