นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาหอการค้าพร้อมสานต่อแนวทางดำเนินงานของนายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่เสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยมีภารกิจเร่งด่วน 3 เรื่อง คือ การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งวันที่ 25 กันยายนนี้ จะจัดกิจกรรมเดินรณรงค์ที่สวนลุมพินี ร่วมกับภาคีเครือข่าย 22 องค์กร
นอกจากนี้ จะสานต่อโครงการลดความเหลื่อมล้ำ ในโครงการ "1 ไร่ 1 แสน" เพื่อส่งเสริมชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น และเตรียมความพร้อมของภาคเอกชนในการเข้าร่วมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558
ขณะที่การบริหารงานภายในหอการค้า นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ลำดับที่ 1 จะรักษาการในตำแหน่งประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ไปจนกว่าจะมีการคัดเลือกผู้มาดำรงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า
นายพรศิลป์ กล่าวอีกว่า การเข้าดำรงตำแหน่งของนายดุสิต ในหอการค้า รวมระยะเวลา 2 ปี 6 เดือน ทำให้องค์กรแห่งนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะการทำงานในเชิงรุกหลายด้าน ส่งผลให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น
สำหรับการดำเนินงานในช่วงท้ายก่อนเสียชีวิต นายดุสิต ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างความปรองดองภายในชาติ เพื่อให้ประเทศชาติขับเคลื่อนต่อไปได้ มิฉะนั้นจะสร้างความเสียหายทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอย่างรุนแรง รวมถึงความพยายามลดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกมานาน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น จนอาจทำให้ประเทศล่มสลายได้
นอกจากนี้ จะสานต่อโครงการลดความเหลื่อมล้ำ ในโครงการ "1 ไร่ 1 แสน" เพื่อส่งเสริมชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น และเตรียมความพร้อมของภาคเอกชนในการเข้าร่วมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558
ขณะที่การบริหารงานภายในหอการค้า นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ลำดับที่ 1 จะรักษาการในตำแหน่งประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ไปจนกว่าจะมีการคัดเลือกผู้มาดำรงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า
นายพรศิลป์ กล่าวอีกว่า การเข้าดำรงตำแหน่งของนายดุสิต ในหอการค้า รวมระยะเวลา 2 ปี 6 เดือน ทำให้องค์กรแห่งนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะการทำงานในเชิงรุกหลายด้าน ส่งผลให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น
สำหรับการดำเนินงานในช่วงท้ายก่อนเสียชีวิต นายดุสิต ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างความปรองดองภายในชาติ เพื่อให้ประเทศชาติขับเคลื่อนต่อไปได้ มิฉะนั้นจะสร้างความเสียหายทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอย่างรุนแรง รวมถึงความพยายามลดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกมานาน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น จนอาจทำให้ประเทศล่มสลายได้