นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง เตรียมหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อเปิดเสรีทางด้านการบริการทางการเงิน โดยให้ทางธนาคารระดับต้นๆ ของประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียน บวก 3 เข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทย เพื่อรองรับเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนและชาวต่างชาติ ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ในการทำการค้าระหว่างประเทศ รวมไปถึงระหว่างไทยกับประเทศคู่ค้า
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการดูศักยภาพการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ไทย ถือว่ามีความสามารถเทียบเท่าและสามารถแข่งขันกับธนาคารอันดับต้นๆ ของประเทศในภูมิภาคนี้ได้
ส่วนการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ จะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งการจะดำเนินการจัดตั้งกองทุนนั้น จะคำนึงถึงเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งจะต้องมีเพียงพอ ทั้งนี้ อาจเป็นการจัดตั้งโดยรูปแบบการแบ่งบัญชีสำรองออกมา อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งกองทุนดังกล่าวนั้น จะไม่มีการนำเงินและทองคำ ที่ได้รับบริจาคเข้ากองพระคลังหลวง โดยกองทุนช่วยชาติของหลวงตามหาบัว มาใช้ รวมไปถึงเงินและทองคำของหลวงตามหาบัวนั้น ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการแบ่งแยกไว้เป็นสัดส่วน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้
นายธีระชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากมีการจัดตั้งกองทุนแล้ว เสร็จหากเกิดปัญหาขาดทุนทางรัฐบาล ก็พร้อมจะตั้งวงเงินงบประมาณในการสำรองให้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการลงทุนของทางธนาคารแห่งประเทศไทยเอง ก็ประสบกับปัญหาขาดทุน โดยเฉพาะในส่วนการถือครองพันธบัตรสหรัฐ ก็ถือว่าการลงทุนเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีความเสี่ยง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการดูศักยภาพการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ไทย ถือว่ามีความสามารถเทียบเท่าและสามารถแข่งขันกับธนาคารอันดับต้นๆ ของประเทศในภูมิภาคนี้ได้
ส่วนการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ จะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งการจะดำเนินการจัดตั้งกองทุนนั้น จะคำนึงถึงเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งจะต้องมีเพียงพอ ทั้งนี้ อาจเป็นการจัดตั้งโดยรูปแบบการแบ่งบัญชีสำรองออกมา อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งกองทุนดังกล่าวนั้น จะไม่มีการนำเงินและทองคำ ที่ได้รับบริจาคเข้ากองพระคลังหลวง โดยกองทุนช่วยชาติของหลวงตามหาบัว มาใช้ รวมไปถึงเงินและทองคำของหลวงตามหาบัวนั้น ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการแบ่งแยกไว้เป็นสัดส่วน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้
นายธีระชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากมีการจัดตั้งกองทุนแล้ว เสร็จหากเกิดปัญหาขาดทุนทางรัฐบาล ก็พร้อมจะตั้งวงเงินงบประมาณในการสำรองให้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการลงทุนของทางธนาคารแห่งประเทศไทยเอง ก็ประสบกับปัญหาขาดทุน โดยเฉพาะในส่วนการถือครองพันธบัตรสหรัฐ ก็ถือว่าการลงทุนเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีความเสี่ยง