แขวงการทางอยุธยา และหมวดการทางเสนา ระดมเครื่องมือหนักไม่ว่าจะเป็นรถแบคโฮ รถเกรดดิน รถบรรทุกดิน และรถขนท่อระบายน้ำ ถูกระดมมาช่วยงานเพื่อกู้ถนนสายเสนา-ผักไห่ ช่วงหมู่ 6 - 8 ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากเมื่อวานนี้น้ำจากแม่น้ำน้อยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็งเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชน และทะลักเข้าท่วมถนนสายเสนา-ผักไห่ บริเวณดังกล่าวเกือบ 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีถนนอีกจุด คือ ช่วงคอสะพานข้ามแม่น้ำน้อย ถึงแยกหัวเวียง ระยะทางประมาณ 500 เมตร ถูกน้ำท่วมเช่นกัน
การทำแนวคันดินป้องกันน้ำท่วมถนนสายเสนา-ผักไห่ ในครั้งนี้ ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง เนื่องจากการลำเลียงดินค่อนข้างลำบาก เพราะกระแสน้ำแรง และบนผิวถนนน้ำท่วมสูงกว่า 40 เซนติเมตร อีกทั้งยังมีรถกระบะวิ่งสวนตลอดเวลา ทำให้คนขับรถบรรทุกต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะกระแสน้ำที่ไหลบ่าข้ามถนนครั้งนี้ ยังกัดเซาะผิวถนนฝั่งตรงข้ามได้รับความเสียหายแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตลอดการทำงานกู้ถนนเส้นดังกล่าว เจ้าหน้าที่หมวดการทางเสนา พยายามปิดการจราจรให้รถไปวิ่งฝั่งตรงข้าม แต่ไม่สามารถทำได้อย่างสะดวก เนื่องจากฝั่งตรงข้ามเป็นถนนแนวคันคลองชลประทาน และผิวการจราจรแคบ อีกทั้งมีน้ำในคลองเกือบเต็ม และหากมีการจราจรมาก อาจจะทำให้ถนนเส้นดังกล่าวเกิดการทรุดตัว และเบียดกันจนตกลงไปในน้ำ จึงต้องปล่อยให้รถจักรยานยนต์วิ่งเพียงอย่างเดียว
สำหรับถนนเส้นดังกล่าวเป็นเส้นทางหลักของชาวบ้าน 2 อำเภอ คือ อ.เสนา และ อ.ผักไห่ และเป็นเส้นทางลัดที่ไปออก จ.อ่างทอง ได้ โดยน้ำท่วมครั้งนี้ชาวบ้านบอกว่าเหลืออีกประมาณ 30 เซนติเมตร จะเท่ากับเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้าน ต.บ้านกระทุ่ม และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ที่อยู่ริมน้ำและถูกน้ำท่วม ต้องหนุนบ้านให้สูงพ้นจากน้ำ เพื่อใช้หลับนอนชั่วคราวแล้ว
การทำแนวคันดินป้องกันน้ำท่วมถนนสายเสนา-ผักไห่ ในครั้งนี้ ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง เนื่องจากการลำเลียงดินค่อนข้างลำบาก เพราะกระแสน้ำแรง และบนผิวถนนน้ำท่วมสูงกว่า 40 เซนติเมตร อีกทั้งยังมีรถกระบะวิ่งสวนตลอดเวลา ทำให้คนขับรถบรรทุกต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะกระแสน้ำที่ไหลบ่าข้ามถนนครั้งนี้ ยังกัดเซาะผิวถนนฝั่งตรงข้ามได้รับความเสียหายแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตลอดการทำงานกู้ถนนเส้นดังกล่าว เจ้าหน้าที่หมวดการทางเสนา พยายามปิดการจราจรให้รถไปวิ่งฝั่งตรงข้าม แต่ไม่สามารถทำได้อย่างสะดวก เนื่องจากฝั่งตรงข้ามเป็นถนนแนวคันคลองชลประทาน และผิวการจราจรแคบ อีกทั้งมีน้ำในคลองเกือบเต็ม และหากมีการจราจรมาก อาจจะทำให้ถนนเส้นดังกล่าวเกิดการทรุดตัว และเบียดกันจนตกลงไปในน้ำ จึงต้องปล่อยให้รถจักรยานยนต์วิ่งเพียงอย่างเดียว
สำหรับถนนเส้นดังกล่าวเป็นเส้นทางหลักของชาวบ้าน 2 อำเภอ คือ อ.เสนา และ อ.ผักไห่ และเป็นเส้นทางลัดที่ไปออก จ.อ่างทอง ได้ โดยน้ำท่วมครั้งนี้ชาวบ้านบอกว่าเหลืออีกประมาณ 30 เซนติเมตร จะเท่ากับเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้าน ต.บ้านกระทุ่ม และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ที่อยู่ริมน้ำและถูกน้ำท่วม ต้องหนุนบ้านให้สูงพ้นจากน้ำ เพื่อใช้หลับนอนชั่วคราวแล้ว