นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีเอ็ม ครั้งที่ 43 ที่ประเทศอินโดนีเซีย สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจการค้าอาเซียน พบว่าขยายตัวสูงถึงร้อยละ 17.5 เฉพาะการค้าสินค้าในตลาดอาเซียน สูงถึงร้อยละ 32.9 ทั้งการนำเข้าและส่งออก ที่น่าสนใจ คืออาเซียนสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศขยายตัวถึง 2 เท่า หรือ 75-76 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้นจึงตั้งเป้าหมายว่า ในปีนี้ เศรษฐกิจอาเซียนน่าจะเติบโตได้ถึงร้อยละ 5.7-6.4 และการขยายตัวดังกล่าวนี้แสดงถึงการพัฒนาศักยภาพตลาดอาเซียนที่มีพลัง พร้อมเข้าสู่ความเป็นประชาคมอาเซียนในอนาคต
ส่วนความสำคัญของประเทศภาคีนั้น อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ทุกประเทศที่ได้ทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ ต่างผลักดันอาเซียนให้ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการเปิดเสรีการค้าสินค้าฉบับใหม่กับประเทศคู่เจรจาที่อาเซียนมีความตกลงเขตการค้าเสรีอยู่แล้ว โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน จะมีประเทศที่ได้รับเชิญอีก 2 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ และรัสเซียด้วย และเมื่อได้ร่วมมือกันจะช่วยให้ตลาดอาเซียนเป็นศูนย์กลางความร่วมมือ ธุรกิจการค้า สำคัญในเศรษฐกิจโลก
ส่วนความสำคัญของประเทศภาคีนั้น อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ทุกประเทศที่ได้ทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ ต่างผลักดันอาเซียนให้ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการเปิดเสรีการค้าสินค้าฉบับใหม่กับประเทศคู่เจรจาที่อาเซียนมีความตกลงเขตการค้าเสรีอยู่แล้ว โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน จะมีประเทศที่ได้รับเชิญอีก 2 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ และรัสเซียด้วย และเมื่อได้ร่วมมือกันจะช่วยให้ตลาดอาเซียนเป็นศูนย์กลางความร่วมมือ ธุรกิจการค้า สำคัญในเศรษฐกิจโลก
