นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ว่า น้ำเหนือที่ไหลมาจาก จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีปริมาณสูงที่ 1,850 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากที่คาดการณ์ไว้ว่า จะสูงถึง 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้น้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ไม่เกิน 1,400-1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งพื้นที่ตอนท้ายเขื่อนจะได้รับผลกระทบไม่มาก นอกจากพื้นที่ลุ่มต่ำบางจุด ขณะเดียวกันยังระบายน้ำด้วยการกระจายน้ำจาก จ.นครสวรรค์ ไปยังระบบชลประทานที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกและตะวันออก ซึ่งจะทำให้มีน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานเพิ่มขึ้นจาก 300 เป็น 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
นายธีระ กล่าวต่อไปว่า ปริมาณน้ำที่ลดลงจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากปริมาณที่ลดลงทุก 100 ลูกบาศก์เมตร จะทำให้ระดับน้ำต่ำลง 25 เซนติเมตร ซึ่งสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคเหนือทั้งสุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก และแพร่ คงจะต้องใช้ระยะเวลาในการคลี่คลายไม่ต่ำกว่า 1 เดือน โดยจากการสำรวจพื้นที่ความเสียหายพบว่า พื้นที่เพาะปลูกเสียหายกว่า 1.3 ล้านไร่ เป็นนาข้าวถึง 1 ล้านไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่ของพืชไร่ และพืชสวน โดยคาดว่าจะทำให้ปริมาณข้าวนาปีในฤดูกาลนี้ลดลง หรือคิดเป็นความเสียหายเฉลี่ย 400 กิโลกรัมต่อไร่
นายธีระ กล่าวต่อไปว่า ปริมาณน้ำที่ลดลงจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากปริมาณที่ลดลงทุก 100 ลูกบาศก์เมตร จะทำให้ระดับน้ำต่ำลง 25 เซนติเมตร ซึ่งสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคเหนือทั้งสุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก และแพร่ คงจะต้องใช้ระยะเวลาในการคลี่คลายไม่ต่ำกว่า 1 เดือน โดยจากการสำรวจพื้นที่ความเสียหายพบว่า พื้นที่เพาะปลูกเสียหายกว่า 1.3 ล้านไร่ เป็นนาข้าวถึง 1 ล้านไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่ของพืชไร่ และพืชสวน โดยคาดว่าจะทำให้ปริมาณข้าวนาปีในฤดูกาลนี้ลดลง หรือคิดเป็นความเสียหายเฉลี่ย 400 กิโลกรัมต่อไร่