นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล เปิดเผยว่า หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 2 คนแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของประธานสภาฯ ในการกำหนดวันประชุมสภาเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยคาดว่าในวันที่ 4 สิงหาคม จะมีการหารือกันภายในอีกครั้งเพื่อทำความเข้าใจกับสมาชิก รวมถึงหารือกับพรรคร่วมฯ ด้วย ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 5 แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับประธานสภาฯ ในการหารือกับทุกพรรค ทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน ในการนัดประชุมสภา
ขณะที่การจัดโผคณะรัฐมนตรีนั้น นายจารุพงศ์ กล่าวว่า มีการคัดสรรตัวบุคคลไปแล้วบางส่วน แต่ยังไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องรอปรึกษาพรรคร่วมฯ ในการจัดสรรตำแหน่งอีกครั้ง ก่อนที่จะให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าจะสามารถจัดสรรบุคคลในการดำรงตำแหน่งต่างๆ ได้โดยไม่เกิดความขัดแย้งภายในพรรคแต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายจารุพงศ์ ยังชี้แจงถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่า ได้ยื่นหนังสือชี้แจงต่อ กกต.8 หน้า รวมถึงชี้แจงด้วยวาจาอีกกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที ว่านายจตุพร เป็นสมาชิกมาตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2551 ก่อนจะถูกศาลสั่งขังแต่ยังไม่ตัดสิน ก่อนรับสมัครเลือกตั้ง และ กกต.ได้รับรองคุณสมบัติไปแล้ว ตลอดจนไม่มีการแก้ไขข้อบังคับพรรคตั้งแต่ปี 2553 ได้มีการตัดคำว่า "ถูกจับขังไว้" ออกไป จึงทำให้นายจตุพร ไม่ขาดการเป็นสมาชิกภาพ
ขณะที่การจัดโผคณะรัฐมนตรีนั้น นายจารุพงศ์ กล่าวว่า มีการคัดสรรตัวบุคคลไปแล้วบางส่วน แต่ยังไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องรอปรึกษาพรรคร่วมฯ ในการจัดสรรตำแหน่งอีกครั้ง ก่อนที่จะให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าจะสามารถจัดสรรบุคคลในการดำรงตำแหน่งต่างๆ ได้โดยไม่เกิดความขัดแย้งภายในพรรคแต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายจารุพงศ์ ยังชี้แจงถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่า ได้ยื่นหนังสือชี้แจงต่อ กกต.8 หน้า รวมถึงชี้แจงด้วยวาจาอีกกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที ว่านายจตุพร เป็นสมาชิกมาตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2551 ก่อนจะถูกศาลสั่งขังแต่ยังไม่ตัดสิน ก่อนรับสมัครเลือกตั้ง และ กกต.ได้รับรองคุณสมบัติไปแล้ว ตลอดจนไม่มีการแก้ไขข้อบังคับพรรคตั้งแต่ปี 2553 ได้มีการตัดคำว่า "ถูกจับขังไว้" ออกไป จึงทำให้นายจตุพร ไม่ขาดการเป็นสมาชิกภาพ