นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวถึงโครงการส่งเสริมการตลาดเครือข่ายข้าวสารของสหกรณ์ และการเพิ่มช่องทางตลาดในสินค้าสหกรณ์ในอนาคต ว่า จากนี้จะทำการประเมินคุณภาพสินค้าทุกประเภทของสหกรณ์ไทย เพื่อดูศักยภาพของแต่ละสหกรณ์ ก่อนจัดให้เกิดการเชื่อมโยงการซื้อขายสินค้าโดยตรงระหว่างสหกรณ์ด้วยกัน ที่มีจุดแข็งของสินค้าต่างกัน อาทิ สหกรณ์ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีข้าวเป็นสินค้าหลัก ที่มีคุณภาพและปริมาณมาก เปิดให้ซื้อขายแลกเปลี่ยนกับสินค้าประเภทอาหารทะเลกับสหกรณ์ในพื้นที่ภาคใต้ เป็นต้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาแม้ประเทศไทยจะมีสหกรณ์กว่า 7,000 สหกรณ์ ที่มีจุดแข็งพิเศษในแต่ละพื้นที่ แต่ไม่เคยประสานความร่วมมือกันได้ จนสหกรณ์ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลางในการซื้อขายสินค้า ทำให้ราคาที่ต้องจ่ายสูงเกินจริง
ดังนั้น มองว่าหากสหกรณ์ไทยทั่วประเทศสามารถประสานความร่วมมือกันได้ทั้งหมด เกษตรกรไทยที่เป็นสมาชิกสหกรณ์กว่า 10 ล้านคน จะได้ซื้อสินค้าในราคาที่ถูกและมีคุณภาพดี รวมถึงยังง่ายต่อการพัฒนาสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปครบวงจร ให้ได้มาตรฐานสากล ส่งออกนอกประเทศได้
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า เดือนสิงหาคมนี้ จะเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมงานชุมนุมสหกรณ์ เพื่อหารือถึงทิศทางในการพัฒนาระบบสหกรณ์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาแม้ประเทศไทยจะมีสหกรณ์กว่า 7,000 สหกรณ์ ที่มีจุดแข็งพิเศษในแต่ละพื้นที่ แต่ไม่เคยประสานความร่วมมือกันได้ จนสหกรณ์ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลางในการซื้อขายสินค้า ทำให้ราคาที่ต้องจ่ายสูงเกินจริง
ดังนั้น มองว่าหากสหกรณ์ไทยทั่วประเทศสามารถประสานความร่วมมือกันได้ทั้งหมด เกษตรกรไทยที่เป็นสมาชิกสหกรณ์กว่า 10 ล้านคน จะได้ซื้อสินค้าในราคาที่ถูกและมีคุณภาพดี รวมถึงยังง่ายต่อการพัฒนาสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปครบวงจร ให้ได้มาตรฐานสากล ส่งออกนอกประเทศได้
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า เดือนสิงหาคมนี้ จะเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมงานชุมนุมสหกรณ์ เพื่อหารือถึงทิศทางในการพัฒนาระบบสหกรณ์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล