สถานการณ์บริเวณชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร ทหารกัมพูชา มีการตรึงกำลังในพื้นที่พิพาทรอบปราสาทเขาพระวิหาร โดยตลอดแนวด้านทิศตะวันตกของปราสาทพระวิหาร ทหารกัมพูชาได้เคลื่อนรถถัง รุ่นที 55 จำนวน 5 คัน ขึ้นไปเสริมกำลัง โดยจอดรถถังติดกับปราสาทพระวิหาร หันปากกระบอกปืนเล็งมาที่ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ส่วนรถถังรุ่นที 54 และที 55 อีก 10 คัน ได้เคลื่อนมาเสริมกำลังที่บ้านโกมุย ต.กันตร๊วจ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ซึ่งเป็นฐานทัพกัมพูชา ที่อยู่ใกล้ปราสาทพระวิหารมากที่สุด ทั้งนี้ ยังมีรถถังรุ่นที 54 อีก 10 คัน จอดประจำการอยู่ริมเทือกเขาพนมดงรัก ฝั่งตรงกันข้ามกับช่องโดนเอาว์ ต.รุง อ.กันทรลักษ์
ขณะเดียวกัน พล.ท.สรัย ดึ๊ก ผบ.กองพลน้อยสนับสนุนที่ 3 กองทัพบกกัมพูชา และ ผบ.ทหาร จ.พระวิหาร ได้สั่งการให้ ทหารกัมพูชา ทยอยกันขึ้นมาเสริมกำลัง บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร โดยให้มารายงานตัวที่ด้านหลังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ห่างจากวัด 500 เมตร ก่อนกำลังทหารกัมพูชาส่วนหนึ่ง จะพากันแยกย้ายไปประจำการ ตามจุดที่เป็นที่ตั้งของปืนใหญ่ ปืน ค.60 และปืน ค.82 จุดละ 3-5 นาย รอบปราสาทพระวิหารด้านทิศตะวันตก ไปจนถึงช่องคานหัก พร้อมกับสร้างบังเกอร์ซีเมนต์ขนาดใหญ่ และเคลื่อนปืนใหญ่มาประจำการ ที่หน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระด้วย
ขณะเดียวกัน พล.ท.สรัย ดึ๊ก ผบ.กองพลน้อยสนับสนุนที่ 3 กองทัพบกกัมพูชา และ ผบ.ทหาร จ.พระวิหาร ได้สั่งการให้ ทหารกัมพูชา ทยอยกันขึ้นมาเสริมกำลัง บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร โดยให้มารายงานตัวที่ด้านหลังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ห่างจากวัด 500 เมตร ก่อนกำลังทหารกัมพูชาส่วนหนึ่ง จะพากันแยกย้ายไปประจำการ ตามจุดที่เป็นที่ตั้งของปืนใหญ่ ปืน ค.60 และปืน ค.82 จุดละ 3-5 นาย รอบปราสาทพระวิหารด้านทิศตะวันตก ไปจนถึงช่องคานหัก พร้อมกับสร้างบังเกอร์ซีเมนต์ขนาดใหญ่ และเคลื่อนปืนใหญ่มาประจำการ ที่หน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระด้วย