นายพงษ์วรรณ จารุเดชา รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวถึงความคืบหน้าในการกู้เรือทรายล่มที่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณโค้งน้ำเหนือประตูระบายน้ำปากคลองบางซื่อ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ถึงแม้จะไม่มีผลกระทบต่อการเดินเรือ หรือริมตลิ่ง แต่ทุกภาคส่วนไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามดำเนินการให้เร็วที่สุด
ล่าสุด เจ้าของเรือบรรทุกทรายได้ว่าจ้างบริษัทกู้เรือนำเครื่องมือจากท่าเรือสาธุประดิษฐ์ กรุงเทพมหานคร มาถึงจุดเกิดเหตุในวันนี้ เวลา 12.00 น. และจะทำการสูบทรายจำนวน 160 ลูกบาศก์เมตร ออกจากเรือ โดยจะนำทรายไปเสริมริมตลิ่งบริเวณที่เรือล่ม จะใช้เวลาสูบทรายประมาณ 1 วัน หลังจากนั้นคาดว่าจะสามารถกู้เรือแล้วเสร็จภายใน 2 วัน
รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวด้วยว่า แม้เรือที่จมลงจะไม่มีผลกระทบต่อการเดินเรือ แต่เพื่อความปลอดภัย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาอยุธยา จึงสั่งปิดการเดินเรือขนาดใหญ่ในช่วงเวลากลางคืน จนกว่าจะกู้เรือเสร็จ
ล่าสุด เจ้าของเรือบรรทุกทรายได้ว่าจ้างบริษัทกู้เรือนำเครื่องมือจากท่าเรือสาธุประดิษฐ์ กรุงเทพมหานคร มาถึงจุดเกิดเหตุในวันนี้ เวลา 12.00 น. และจะทำการสูบทรายจำนวน 160 ลูกบาศก์เมตร ออกจากเรือ โดยจะนำทรายไปเสริมริมตลิ่งบริเวณที่เรือล่ม จะใช้เวลาสูบทรายประมาณ 1 วัน หลังจากนั้นคาดว่าจะสามารถกู้เรือแล้วเสร็จภายใน 2 วัน
รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวด้วยว่า แม้เรือที่จมลงจะไม่มีผลกระทบต่อการเดินเรือ แต่เพื่อความปลอดภัย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาอยุธยา จึงสั่งปิดการเดินเรือขนาดใหญ่ในช่วงเวลากลางคืน จนกว่าจะกู้เรือเสร็จ
