คณะกรรมการมรดกโลก อนุมัติ 9 สถานที่ ให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกใหม่ โดยกระจายอยู่ในทวีปแอฟริกา ยุโรป และเอเชีย โดย 4 สถานที่ในเอเชีย ประกอบด้วย หมู่บ้านโบราณทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย (สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย) แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม อัล-อิน (Al Ain) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปอร์เซีย การ์เด้น ประเทศอิหร่าน และ ป้อมปราการราชวงศ์โฮ ประเทศเวียดนาม
ในยุโรป 3 แห่ง ได้แก่ ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรม เซอร์รา เดอ ทรามุนตานา ประเทศสเปน กองเสาหินรอบเทือกเขาแอลป์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และ สโลวีเนีย มัสยิดเซลิม ประเทศตุรกี อีก 2 แห่งในแอฟริกา ได้แก่ ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของชนเผ่าคอนโซ ประเทศเอธิโอเปีย และป้อมพระเยซู ในมอมบาซา ประเทศเคนยา
ทั้งนี้ นับตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการมรดก ครั้งที่ 35 ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีการขึ้นทะเบียนมรดกโลกใหม่ แล้ว 22 แห่ง รวมมรดกโลกปัจจุบัน มีทั้งสิ้น 35 แห่ง
ในยุโรป 3 แห่ง ได้แก่ ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรม เซอร์รา เดอ ทรามุนตานา ประเทศสเปน กองเสาหินรอบเทือกเขาแอลป์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และ สโลวีเนีย มัสยิดเซลิม ประเทศตุรกี อีก 2 แห่งในแอฟริกา ได้แก่ ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของชนเผ่าคอนโซ ประเทศเอธิโอเปีย และป้อมพระเยซู ในมอมบาซา ประเทศเคนยา
ทั้งนี้ นับตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการมรดก ครั้งที่ 35 ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีการขึ้นทะเบียนมรดกโลกใหม่ แล้ว 22 แห่ง รวมมรดกโลกปัจจุบัน มีทั้งสิ้น 35 แห่ง