นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยืนยันว่า ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ตนจะนำข้อมูลเข้าร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และอัยการ เพื่อขอให้สอบสวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย เนื่องจากภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 4.6 หมื่นล้านบาท พบว่ามีความผิดข้างเคียงเกิดขึ้นหลายกรณี อาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร่วมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แจ้งเท็จต่อตลาดหลักทรัพย์ ให้การเท็จต่อ คตส. และเบิกความเท็จต่อศาล ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา หลังศาลมีคำพิพากษาไปแล้วยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินการ แต่ขณะนี้ เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งกำลังเป็นหมากตัวหนึ่งที่จะเข้ามาล้มสิ่งที่ศาลเคยมีคำพิพากษาไว้ จึงต้องใช้กฎหมายเข้ามาสู้กับการเมือง เนื่องจากหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา การจะนิรโทษกรรมเรื่องคอร์รัปชั่นจะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจะกลายเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ตนเองไปด้วย
อย่างไรก็ตาม นายแก้วสรร ยืนยันว่า ที่ดำเนินการเช่นนี้เนื่องจากไม่เห็นด้วย หากจะนำการเมืองมานิรโทษกรรมการคอร์รัปชั่น ส่วนคดีอื่นที่หวังจะนิรโทษกรรมนั้น ไม่ขอก้าวก่าย เพราะหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ อนาคตใครคอร์รัปชั่นก็จะหันมาใช้การเมืองแก้ผิดกันตลอด ส่วนหน่วยงานใดไม่ดำเนินการ ก็อาจเข้าข่ายผิดมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม นายแก้วสรร ยืนยันว่า ที่ดำเนินการเช่นนี้เนื่องจากไม่เห็นด้วย หากจะนำการเมืองมานิรโทษกรรมการคอร์รัปชั่น ส่วนคดีอื่นที่หวังจะนิรโทษกรรมนั้น ไม่ขอก้าวก่าย เพราะหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ อนาคตใครคอร์รัปชั่นก็จะหันมาใช้การเมืองแก้ผิดกันตลอด ส่วนหน่วยงานใดไม่ดำเนินการ ก็อาจเข้าข่ายผิดมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อย่างแน่นอน