นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนผลิตของเกษตรกร ให้แก่เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.ทั่วประเทศ ให้เข้าใจขั้นตอนต่างๆ เพื่อนำไปชี้แจงให้เกษตรกรรับทราบก่อนดำเนินโครงการ วันที่ 30 พฤษภาคม 2554 ถึงเมษายน 2555 ซึ่งโครงการปุ๋ยลดต้นทุน เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างราคาปุ๋ยจากรัฐบาล กิโลกรัมละ 1.50 บาท หรือ ตันละ 1,500 บาท
เกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนโครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งคาดว่ามีผู้สนใจไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน สำหรับปุ๋ยลดต้นทุน มีการผลิต 4 สูตร ตรงกับสภาพการเพาะปลูกแต่ละพื้นที่ คาดว่าส่งผลให้เกษตรกรทั่วประเทศลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ ประมาณ 20% จากปัจจุบัน ซึ่งลดต้นทุนการผลิตลงได้ 10,000 ล้านบาท
นายประกิต เชวงนิรันดร์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ร้านขายปุ๋ยที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ ต้องลงทะเบียนกับ ธ.ก.ส.เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการจ่ายส่วนต่างราคาปุ๋ย และกำหนดราคากลางในการขายปุ๋ยแต่ละจังหวัด ซึ่งจะส่งราคาใหม่ ทุกสัปดาห์ เป็นราคากลาง เพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรม
สำหรับขั้นตอนการซื้อ เมื่อเกษตรกรซื้อปุ๋ยในร้านที่ร่วมโครงการ จะได้รับส่วนลดทันที ตันละ 1,500 บาท จากนั้นร้านค้าจะนำใบซื้อปุ๋ยไปขึ้นเงินกับ ธ.ก.ส.เพื่อขอรับเงินชดเชย แต่ ธ.ก.ส.จะต้องตรวจสอบข้อมูลเกษตรกรว่า ปริมาณการซื้อปุ๋ยสอดคล้องพื้นที่ทำการเกษตรที่มีอยู่หรือไม่ เพื่อป้องกันการทุจริต ส่วนเกษตรกรที่ไม่มีเงินซื้อปุ๋ย ธ.ก.ส.ยังเตรียมวงเงินกู้ รวม 30,000 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยปกติ 7% ต่อปี
เกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนโครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งคาดว่ามีผู้สนใจไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน สำหรับปุ๋ยลดต้นทุน มีการผลิต 4 สูตร ตรงกับสภาพการเพาะปลูกแต่ละพื้นที่ คาดว่าส่งผลให้เกษตรกรทั่วประเทศลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ ประมาณ 20% จากปัจจุบัน ซึ่งลดต้นทุนการผลิตลงได้ 10,000 ล้านบาท
นายประกิต เชวงนิรันดร์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ร้านขายปุ๋ยที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ ต้องลงทะเบียนกับ ธ.ก.ส.เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการจ่ายส่วนต่างราคาปุ๋ย และกำหนดราคากลางในการขายปุ๋ยแต่ละจังหวัด ซึ่งจะส่งราคาใหม่ ทุกสัปดาห์ เป็นราคากลาง เพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรม
สำหรับขั้นตอนการซื้อ เมื่อเกษตรกรซื้อปุ๋ยในร้านที่ร่วมโครงการ จะได้รับส่วนลดทันที ตันละ 1,500 บาท จากนั้นร้านค้าจะนำใบซื้อปุ๋ยไปขึ้นเงินกับ ธ.ก.ส.เพื่อขอรับเงินชดเชย แต่ ธ.ก.ส.จะต้องตรวจสอบข้อมูลเกษตรกรว่า ปริมาณการซื้อปุ๋ยสอดคล้องพื้นที่ทำการเกษตรที่มีอยู่หรือไม่ เพื่อป้องกันการทุจริต ส่วนเกษตรกรที่ไม่มีเงินซื้อปุ๋ย ธ.ก.ส.ยังเตรียมวงเงินกู้ รวม 30,000 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยปกติ 7% ต่อปี
