วันนี้ สถาบันการเงิน 3 แห่งของรัฐ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลาม แถลงความร่วมมือในโครงการลดภาระดอกเบี้ยบัตรเครดิตให้กับประชาชน โดยมี นายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ซึ่งโครงการนี้จะเริ่มดำเนินการวันที่ 1 มิถุนายน - 31 สิงหาคม 2554 โดยตั้งวงเงินรวมไว้ 10,000 ล้านบาท
ผู้ที่สนใจสามารถยื่นลงทะเบียนได้จาก 3 ธนาคารนี้ โดยต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ที่มีสถานะหนี้บัตรเครดิตเป็นปกติไม่ค้างชำระ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2554 เป็นต้นไป โดยธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการชำระเงินของผู้กู้เป็นรายๆ ไป และให้วงเงินกู้ไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน ไม่เกิน 300,000 บาท โดยมีระยะเวลาในการผ่อนชำระ 1-3 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 10% และผู้กู้ต้องยกเลิกการใช้บัตรเครดิตดังกล่าว และไม่ทำบัตรเครดิตใหม่ โดยทำหนังสือแสดงเจตจำนงค์กับธนาคารว่า จะไม่ก่อหนี้ เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งธนาคารสามารถตรวจสอบจากข้อมูลในเครดิตบูโรได้ โดยเอกสารที่ต้องเตรียมมา ได้แก่ หลักฐานใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และเอกสารแสดงรายได้
สำหรับการจ่ายหนี้รีไฟแนนซ์ ทั้ง 3 ธนาคารที่เข้าโครงการ จะจ่ายเงินกู้ให้กับเจ้าหนี้บัตรเครดิตโดยตรงโดยไม่ผ่านลูกหนี้ และจ่ายตามจำนวนหนี้จริงเท่านั้น คาดว่าโครงการนี้จะได้รับความสนใจจากประชาชน และอาจกระตุ้นให้สถาบันการเงินต่างๆ หันมาดูแลลูกค้าของตัวเองให้ได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น
ผู้ที่สนใจสามารถยื่นลงทะเบียนได้จาก 3 ธนาคารนี้ โดยต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ที่มีสถานะหนี้บัตรเครดิตเป็นปกติไม่ค้างชำระ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2554 เป็นต้นไป โดยธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการชำระเงินของผู้กู้เป็นรายๆ ไป และให้วงเงินกู้ไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน ไม่เกิน 300,000 บาท โดยมีระยะเวลาในการผ่อนชำระ 1-3 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 10% และผู้กู้ต้องยกเลิกการใช้บัตรเครดิตดังกล่าว และไม่ทำบัตรเครดิตใหม่ โดยทำหนังสือแสดงเจตจำนงค์กับธนาคารว่า จะไม่ก่อหนี้ เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งธนาคารสามารถตรวจสอบจากข้อมูลในเครดิตบูโรได้ โดยเอกสารที่ต้องเตรียมมา ได้แก่ หลักฐานใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และเอกสารแสดงรายได้
สำหรับการจ่ายหนี้รีไฟแนนซ์ ทั้ง 3 ธนาคารที่เข้าโครงการ จะจ่ายเงินกู้ให้กับเจ้าหนี้บัตรเครดิตโดยตรงโดยไม่ผ่านลูกหนี้ และจ่ายตามจำนวนหนี้จริงเท่านั้น คาดว่าโครงการนี้จะได้รับความสนใจจากประชาชน และอาจกระตุ้นให้สถาบันการเงินต่างๆ หันมาดูแลลูกค้าของตัวเองให้ได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น