การประชุมสุดยอดอาเซียนเมื่อวานนี้ แม้จะไม่มีการบรรจุวาระการหารือเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทไทย-กัมพูชาไว้ ในหัวข้อการพูดคุยอย่างเป็นทางการ แต่เรื่องดังกล่าวกลายเป็นประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เปิดฉากกล่าวโทษไทยระหว่างการประชุมเต็มคณะ ซึ่งตามปกติจะเป็นช่วงที่ผู้นำอาเซียนแต่ละประเทศจะกล่าวถ้อยแถลงเรียงตามลำดับตัวอักษรชื่อประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุว่า ไทยเป็นฝ่ายรุกรานกัมพูชาก่อน เพราะกัมพูชาอยู่ระหว่างการสร้างประเทศ และเพิ่งฟื้นตัวจากสงคราม ไม่มีความสามารถจะไปรุกรานใครก่อนได้ ส่วนการเจรจาระดับทวิภาคีถึงทางตันแล้ว จากเงื่อนไขที่ฝ่ายไทยบอกให้ทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ปราสาทพระวิหาร เป็นเรื่องไม่มีเหตุผลและรับไม่ได้
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงตอบโต้ด้วยการแสดงความผิดหวังที่ได้ยินกัมพูชากล่าวหาไทย พร้อมยืนยันว่า ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา เป็นเหมือนความขัดแย้งเรื่องเขตแดนของทุกประเทศ และยืนยันว่า กลไกทวิภาคีระหว่าง 2 ประเทศยังไม่ถึงทางตัน แต่สิ่งที่กัมพูชาทำ แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่ชัดแจ้งว่า ต้องการยกระดับความขัดแย้งสู่ระดับสากล และกัมพูชาได้ละเมิดทีโออาร์ด้วยการส่งกำลังทหารและประชาชนเข้าไปอยู่ในพื้นที่ ซึ่งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวกับสื่อระหว่างการประชุมถึงความเป็นไปได้ในการเจรจา 3 ฝ่าย ว่า ไม่มีปัญหา หากการพบกันจะช่วยได้ เพราะไม่ต้องการให้ปัญหานี้ส่งผลกระทบกับการพยายามสร้างประชาคมอาเซียน
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงตอบโต้ด้วยการแสดงความผิดหวังที่ได้ยินกัมพูชากล่าวหาไทย พร้อมยืนยันว่า ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา เป็นเหมือนความขัดแย้งเรื่องเขตแดนของทุกประเทศ และยืนยันว่า กลไกทวิภาคีระหว่าง 2 ประเทศยังไม่ถึงทางตัน แต่สิ่งที่กัมพูชาทำ แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่ชัดแจ้งว่า ต้องการยกระดับความขัดแย้งสู่ระดับสากล และกัมพูชาได้ละเมิดทีโออาร์ด้วยการส่งกำลังทหารและประชาชนเข้าไปอยู่ในพื้นที่ ซึ่งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวกับสื่อระหว่างการประชุมถึงความเป็นไปได้ในการเจรจา 3 ฝ่าย ว่า ไม่มีปัญหา หากการพบกันจะช่วยได้ เพราะไม่ต้องการให้ปัญหานี้ส่งผลกระทบกับการพยายามสร้างประชาคมอาเซียน
