เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองโอร์เสม็ดฝั่งกัมพูชาเตรียมความพร้อมที่จะเปิดด่านช่องจอมตั้งแต่ช่วงเช้า โดยระบุว่าได้รับการประสานจากผู้นำทหารกัมพูชาในพื้นที่ว่าวันนี้จะมีการเปิดด่าน
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาได้เตรียมความพร้อมที่จะเปิดด่านตรวจคนเข้าเมืองโอร์เสม็ดให้คนผ่านเข้า-ออก แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองฝ่ายไทยยังไม่สามารถเปิดด่านได้ เพราะยังไม่มีคำสั่งลงมา ท่ามกลางทหารที่ยังคงตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ ขณะที่ประชาชนทั้งสองฝั่งที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่ และมีความประสงค์ต้องการเดินทางกลับเข้าพื้นที่ของตัวเอง ยังคงสามารถข้ามกลับไปได้
เหตุการณ์ปะทะกันที่เกิดขึ้น ทำให้บรรยากาศการค้าขายบริเวณช่องจอมฝั่งไทย ยังคงเงียบเหงา ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดให้บริการ เนื่องจากนักท่องเที่ยวทั้งสองฝั่งยังไม่กล้าเดินมาซื้อสินค้าในพื้นที่ ขณะที่ชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณด่าน ส่วนใหญ่ได้อพยพไปอยู่ที่กรุงพนมเปญ เพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์
ก่อนหน้านี้ ที่ด่านช่องจอมและด่านช่องสะงำมีแนวโน้มจะเปิดด่าน หลังจากเมื่อวานนี้ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาค 2 ได้พูดคุยกับ พล.ท.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 โดยทั้งสองฝ่ายมีข้อสรุปว่าจะไม่มีการปะทะกันของทหารตั้งแต่หลังเที่ยงวานนี้ และจะเปิดด่านทั้งสองแห่งในวันนี้ หากไม่มีเหตุการณ์ปะทะกันเกิดขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมามีการปะทะกันในพื้นที่ตามแนวชายแดนด้านปราสาทตาควาย ตั้งแต่ช่วงกลางดึกจนถึงเช้ามืด โดยเฉพาะที่บริเวณช่องกลาง การปะทะกันที่เกิดขึ้นเป็นการปะทะกันของทหารแนวหน้า โดยใช้อาวุธประจำกาย ไม่มีการใช้อาวุธหนัก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้อาสาสมัครทหารพรานเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 6 นาย โดยแหล่งข่าวในพื้นที่แจ้งว่า ระหว่างที่ฝนตกหนักและฟ้าร้อง ทหารกัมพูชาได้คลานเข้ามาในพื้นที่ก่อนจะขว้างระเบิดมายังฐานทหารไทย
การปะทะที่เกิดขึ้นทำให้ยังมีชาวบ้านอพยพมาอยู่ที่ศูนย์ผู้ลี้ภัยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดขณะนี้ที่ศูนย์ผู้ลี้ภัยจากการสู้รบตามแนวชายแดนทั้ง 34 แห่ง มียอดรวมแล้วกว่า 41,000 คน
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาได้เตรียมความพร้อมที่จะเปิดด่านตรวจคนเข้าเมืองโอร์เสม็ดให้คนผ่านเข้า-ออก แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองฝ่ายไทยยังไม่สามารถเปิดด่านได้ เพราะยังไม่มีคำสั่งลงมา ท่ามกลางทหารที่ยังคงตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ ขณะที่ประชาชนทั้งสองฝั่งที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่ และมีความประสงค์ต้องการเดินทางกลับเข้าพื้นที่ของตัวเอง ยังคงสามารถข้ามกลับไปได้
เหตุการณ์ปะทะกันที่เกิดขึ้น ทำให้บรรยากาศการค้าขายบริเวณช่องจอมฝั่งไทย ยังคงเงียบเหงา ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดให้บริการ เนื่องจากนักท่องเที่ยวทั้งสองฝั่งยังไม่กล้าเดินมาซื้อสินค้าในพื้นที่ ขณะที่ชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณด่าน ส่วนใหญ่ได้อพยพไปอยู่ที่กรุงพนมเปญ เพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์
ก่อนหน้านี้ ที่ด่านช่องจอมและด่านช่องสะงำมีแนวโน้มจะเปิดด่าน หลังจากเมื่อวานนี้ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาค 2 ได้พูดคุยกับ พล.ท.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 โดยทั้งสองฝ่ายมีข้อสรุปว่าจะไม่มีการปะทะกันของทหารตั้งแต่หลังเที่ยงวานนี้ และจะเปิดด่านทั้งสองแห่งในวันนี้ หากไม่มีเหตุการณ์ปะทะกันเกิดขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมามีการปะทะกันในพื้นที่ตามแนวชายแดนด้านปราสาทตาควาย ตั้งแต่ช่วงกลางดึกจนถึงเช้ามืด โดยเฉพาะที่บริเวณช่องกลาง การปะทะกันที่เกิดขึ้นเป็นการปะทะกันของทหารแนวหน้า โดยใช้อาวุธประจำกาย ไม่มีการใช้อาวุธหนัก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้อาสาสมัครทหารพรานเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 6 นาย โดยแหล่งข่าวในพื้นที่แจ้งว่า ระหว่างที่ฝนตกหนักและฟ้าร้อง ทหารกัมพูชาได้คลานเข้ามาในพื้นที่ก่อนจะขว้างระเบิดมายังฐานทหารไทย
การปะทะที่เกิดขึ้นทำให้ยังมีชาวบ้านอพยพมาอยู่ที่ศูนย์ผู้ลี้ภัยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดขณะนี้ที่ศูนย์ผู้ลี้ภัยจากการสู้รบตามแนวชายแดนทั้ง 34 แห่ง มียอดรวมแล้วกว่า 41,000 คน
