นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. แถลงข่าวยืนยันการต่อสู้ของกลุ่ม นปช.ว่า เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และต่อต้านระบบอำมาตยาธิปไตย ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันแต่อย่างใด ยืนยันว่า การต่อสู้ดังกล่าวนั้น เป็นการต่อสู้ทางการเมือง และพร้อมพิสูจน์ทุกข้อกล่าวหา ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหลังจากนี้ไป ทางกลุ่ม นปช. จะไม่ออกมาตอบโต้ทางวาจา ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน พร้อมยืนยันว่า แกนนำ นปช.ทุกคนที่ขึ้นเวทีปราศรัยไม่มีเจตนาจาบจ้วงสถาบันแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน กลุ่ม นปช.เรียกร้องให้ทางรัฐบาลและกองทัพ ออกมาปกป้องสถาบัน ในกรณีของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ออกมาสนทนากับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย และถูกนำมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์วิกิลีกส์ ซึ่งมีถ้อยคำที่แสดงถึงการจาบจ้วงสถาบันอย่างชัดเจน แต่ทางรัฐบาลและกองทัพไม่ดำเนินคดีใดๆ กับ พล.อ.เปรม ซึ่งแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลและกองทัพ มี 2 มาตรฐาน
ส่วนกรณีการลาออกจากการเป็นประธานพรรคเพื่อไทย ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ทางกลุ่ม นปช.นั้น เคารพการตัดสินใจดังกล่าว และไม่ติดใจแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม กลุ่ม นปช.ยังสนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยอย่าหวั่นไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมไปถึงสนับสนุนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และพร้อมต่อต้านกลุ่มที่มีความคิด จะล้มการเลือกตั้งทุกกรณี
ขณะเดียวกัน กลุ่ม นปช.เรียกร้องให้ทางรัฐบาลและกองทัพ ออกมาปกป้องสถาบัน ในกรณีของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ออกมาสนทนากับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย และถูกนำมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์วิกิลีกส์ ซึ่งมีถ้อยคำที่แสดงถึงการจาบจ้วงสถาบันอย่างชัดเจน แต่ทางรัฐบาลและกองทัพไม่ดำเนินคดีใดๆ กับ พล.อ.เปรม ซึ่งแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลและกองทัพ มี 2 มาตรฐาน
ส่วนกรณีการลาออกจากการเป็นประธานพรรคเพื่อไทย ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ทางกลุ่ม นปช.นั้น เคารพการตัดสินใจดังกล่าว และไม่ติดใจแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม กลุ่ม นปช.ยังสนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยอย่าหวั่นไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมไปถึงสนับสนุนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และพร้อมต่อต้านกลุ่มที่มีความคิด จะล้มการเลือกตั้งทุกกรณี