นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายยางพาราแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ไม่เห็นด้วยกับโครงการปลูกยางพาราในที่แห่งใหม่ ระยะที่ 3 ปี 2553-2555 จำนวน 8 แสนไร่ ว่ารัฐบาลมีหน้าที่ส่งเสริมอาชีพของประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย ให้มีความมั่นคง ส่วนใครทุจริตในโครงการต้องลงโทษ
ศ.เมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า เสนอความเห็นต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ชะลอโครงการนี้ไว้ก่อน หลังจากพบว่า ยางพาราที่ปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เติบโตไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และประสบปัญหายางตาย ทำให้โครงการระยะที่ 3 มีความเสี่ยงสูง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรีว่าจะมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร
นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังเสนออีกว่า รัฐบาลควรนำงบประมาณที่ใช้ส่งเสริมการปลูกยางพารา มาศึกษา วิจัย เพื่อแก้ไขปัญหาสวนยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ควบคู่กับการพัฒนาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรมากกว่า เช่นเดียวกับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ให้ความเห็นว่า แม้ ครม.จะเห็นชอบในโครงการนี้ และเกษตรกรให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมจำนวนมาก แต่เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความคุ้มค่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงควรชะลอโครงการไว้ก่อน
ศ.เมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า เสนอความเห็นต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ชะลอโครงการนี้ไว้ก่อน หลังจากพบว่า ยางพาราที่ปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เติบโตไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และประสบปัญหายางตาย ทำให้โครงการระยะที่ 3 มีความเสี่ยงสูง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรีว่าจะมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร
นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังเสนออีกว่า รัฐบาลควรนำงบประมาณที่ใช้ส่งเสริมการปลูกยางพารา มาศึกษา วิจัย เพื่อแก้ไขปัญหาสวนยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ควบคู่กับการพัฒนาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรมากกว่า เช่นเดียวกับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ให้ความเห็นว่า แม้ ครม.จะเห็นชอบในโครงการนี้ และเกษตรกรให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมจำนวนมาก แต่เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความคุ้มค่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงควรชะลอโครงการไว้ก่อน