นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี ตรัง ชุมพร สงขลา กระบี่ พังงา สตูล และจังหวัดนราธิวาส ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 100 อำเภอ 641 ตำบล 5,169 หมู่บ้าน จำนวน 579,062 ครัวเรือน หรือกว่า 2,000,000 คน สถานการณ์คลี่คลายอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพังงา นราธิวาส และจังหวัดตูล โดยขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 40 ราย ประกอบด้วย จังหวัดนครศรีธรรมราช 17 ราย สุราษฎร์ธานี 10 ราย พัทลุง 2 ราย กระบี่ 7 ราย ชุมพร 2 ราย และตรัง 2 ราย มีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 17 หลัง เสียหายบางส่วน 848 หลัง
สิ่งสาธารณประโยชน์เสียหายเบื้องต้น ถนน 2,804 สาย สะพาน คอสะพาน 251 แห่ง วัด โรงเรียน 296 แห่ง สถานที่ราชการ 76 แห่ง
พื้นที่การเกษตรประสบภัย 917,793 ไร่ สำหรับยางพารา ประมาณการพื้นที่เสียหายจากดินโคลนถล่ม ไม่เกิน 50,000 ไร่ เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้จะคลี่คลายได้เร็วไม่ทำให้ต้นยางพาราที่มีอายุมากเสียหาย
ส่วนทางหลวงแผ่นดิน มีน้ำท่วม 42 สายทาง จำนวนรวม 46 แห่ง ผ่านไม่ได้ 27 แห่ง สนามบินปิดให้บริการ 1 แห่ง คือสนามบินนครศรีธรรมราช รถไฟสายใต้ให้บริการได้ถึงสถานีรถไฟไชยา จำนวน 2 ขบวน (ขบวนที่ 39, 43) บริษัทขนส่ง ให้บริการเป็นปกติ เว้นแต่จังหวัดที่สถานีขนส่งถูกน้ำท่วม จะจัดจุดรับ-ส่ง ณ สถานที่ที่เหมาะสม เรือเฟอร์รี่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติแล้ว
โรงพยาบาลท่าศาลา เปิดให้บริการรักษาโรคทั่วไป โดยตั้งโต๊ะบริการประชาชน ยังไม่มีการอพยพผู้ป่วยกลับ การประปาส่วนภูมิภาคสุราษฎร์ธานี ไม่สามารถผลิตน้ำให้บริการประชาชนภายในจังหวัด และในพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอพุนพิน และอำเภอไชยา เนื่องจากแหล่งน้ำดิบที่อำเภอพุนพิน ถูกน้ำท่วม กำลังเร่งแก้ไข
กฟภ. แจ้งข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน 10 จังหวัด จำนวน 539,295 ราย แก้ไขและจ่ายไฟฟ้าได้แล้ว จำนวน 473,262 ราย ยังจ่ายไฟไม่ได้ 66,033 ราย เนื่องจากถนนชำรุด น้ำท่วมสูง เสาไฟฟ้าล้ม ต้นไม้โค่นทับระบบจำหน่ายไฟฟ้า
ทั้งนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต ได้เคลื่อนย้ายบ้านพักชั่วคราว (น็อกดาวน์) พร้อมเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างบ้าน ณ หมู่ที่ 7 ตำบลหน้าเข้า อำเภอเขาพนม ได้ในวันนี้ (3 เม.ย.54) และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง สนับสนุนน้ำดื่ม 2,000 ขวด
สิ่งสาธารณประโยชน์เสียหายเบื้องต้น ถนน 2,804 สาย สะพาน คอสะพาน 251 แห่ง วัด โรงเรียน 296 แห่ง สถานที่ราชการ 76 แห่ง
พื้นที่การเกษตรประสบภัย 917,793 ไร่ สำหรับยางพารา ประมาณการพื้นที่เสียหายจากดินโคลนถล่ม ไม่เกิน 50,000 ไร่ เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้จะคลี่คลายได้เร็วไม่ทำให้ต้นยางพาราที่มีอายุมากเสียหาย
ส่วนทางหลวงแผ่นดิน มีน้ำท่วม 42 สายทาง จำนวนรวม 46 แห่ง ผ่านไม่ได้ 27 แห่ง สนามบินปิดให้บริการ 1 แห่ง คือสนามบินนครศรีธรรมราช รถไฟสายใต้ให้บริการได้ถึงสถานีรถไฟไชยา จำนวน 2 ขบวน (ขบวนที่ 39, 43) บริษัทขนส่ง ให้บริการเป็นปกติ เว้นแต่จังหวัดที่สถานีขนส่งถูกน้ำท่วม จะจัดจุดรับ-ส่ง ณ สถานที่ที่เหมาะสม เรือเฟอร์รี่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติแล้ว
โรงพยาบาลท่าศาลา เปิดให้บริการรักษาโรคทั่วไป โดยตั้งโต๊ะบริการประชาชน ยังไม่มีการอพยพผู้ป่วยกลับ การประปาส่วนภูมิภาคสุราษฎร์ธานี ไม่สามารถผลิตน้ำให้บริการประชาชนภายในจังหวัด และในพื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอพุนพิน และอำเภอไชยา เนื่องจากแหล่งน้ำดิบที่อำเภอพุนพิน ถูกน้ำท่วม กำลังเร่งแก้ไข
กฟภ. แจ้งข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน 10 จังหวัด จำนวน 539,295 ราย แก้ไขและจ่ายไฟฟ้าได้แล้ว จำนวน 473,262 ราย ยังจ่ายไฟไม่ได้ 66,033 ราย เนื่องจากถนนชำรุด น้ำท่วมสูง เสาไฟฟ้าล้ม ต้นไม้โค่นทับระบบจำหน่ายไฟฟ้า
ทั้งนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต ได้เคลื่อนย้ายบ้านพักชั่วคราว (น็อกดาวน์) พร้อมเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างบ้าน ณ หมู่ที่ 7 ตำบลหน้าเข้า อำเภอเขาพนม ได้ในวันนี้ (3 เม.ย.54) และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง สนับสนุนน้ำดื่ม 2,000 ขวด
