ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอด 3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้มีน้ำท่วมพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และตรัง จนถึงขณะนี้บางพื้นที่ระดับน้ำเริ่มลดลงและบางพื้นที่ยังคงน่าเป็นห่วง จ.ชุมพร มีน้ำท่วมทั้งหมด 6 อำเภอ โดย อ.หลังสวน และ อ.ละแม น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะมีน้ำท่วมขัง ในพื้นที่ลุ่มต่ำระดับน้ำสูง 0.50-1 เมตร และยังมีฝนตกต่อเนื่อง
ขณะที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีน้ำท่วม 13 อำเภอ โดยอำเภอที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.ดอนสัก โดยน้ำจากทั้ง 2 อำเภอ จะระบายลงสู่อ่าวไทยผ่านลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออก คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์ จะสามารถระบายน้ำได้ทั้งหมด ส่วนพื้นที่ อ.เวียงสระ บ้านนาเดิม พุนพิน และ อ.เมือง น้ำระบายลงสู่ปากแม่น้ำตาปี เป็นอย่างดี แต่มีความกังวลว่า หากเขื่อนเก็บน้ำดินแดง และเขื่อนกระทูน ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช มีน้ำเกินปริมาณความจุอ่างจากฝนตกหนัก อาจทำให้อำเภอเหล่านี้ต้องรับน้ำเพิ่ม และระยะเวลาที่จะเข้าสู่ภาวะปกติต้องล่าช้าออกไป
ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช มีน้ำท่วม 20 อำเภอ ในพื้นที่ลุ่มต่ำ และชุมชนต่างๆ แต่หลายพื้นที่น้ำเริ่มลดระดับลง เหลือเพียงพื้นที่ อ.เมือง ที่ยังมีน้ำท่วมขังตามซอยต่างๆ และขณะนี้ฝนตกน้อยลง หากไม่มีฝนตกหนักลงมาอีก คาดว่าน้ำจะลดลงภายใน 1-2 วันนี้
สำหรับท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ยังคงปิดให้บริการเนื่องจากยังมีน้ำท่วมขัง และไม่สามารถระบายน้ำออกได้ เพราะบริเวณสนามบินถือเป็นพื้นที่รับน้ำ
ขณะที่ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.)องค์การมหาชน อาศัยการประมวลผลด้วยระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง โดยแบบจำลองสภาพอากาศ คาดการณ์ว่า ช่วงเวลา 1-2 วันนี้ ภาคใต้ยังมีฝนตกต่อเนื่อง โดยจะเกิดฝนตกหนักที่ จ.นครศรีธรรมราช และจะเคลื่อนตัวไปทาง จ.พัทลุง และ จ.สงขลา
นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการ สสนก.กล่าวว่า ปรากฏการณ์ลานิญา เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีฝนตกมากกว่าปกติ ถ้าเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในช่วงเดือนนี้จะไม่มีฝนตก ขณะที่สิ่งก่อสร้างต่างๆ เช่น ถนนที่สร้างขวางทางน้ำ เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดน้ำท่วม และอาจจะต้องพิจารณาการเจาะท่อใต้ถนนเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่
ขณะที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีน้ำท่วม 13 อำเภอ โดยอำเภอที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.ดอนสัก โดยน้ำจากทั้ง 2 อำเภอ จะระบายลงสู่อ่าวไทยผ่านลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออก คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์ จะสามารถระบายน้ำได้ทั้งหมด ส่วนพื้นที่ อ.เวียงสระ บ้านนาเดิม พุนพิน และ อ.เมือง น้ำระบายลงสู่ปากแม่น้ำตาปี เป็นอย่างดี แต่มีความกังวลว่า หากเขื่อนเก็บน้ำดินแดง และเขื่อนกระทูน ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช มีน้ำเกินปริมาณความจุอ่างจากฝนตกหนัก อาจทำให้อำเภอเหล่านี้ต้องรับน้ำเพิ่ม และระยะเวลาที่จะเข้าสู่ภาวะปกติต้องล่าช้าออกไป
ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช มีน้ำท่วม 20 อำเภอ ในพื้นที่ลุ่มต่ำ และชุมชนต่างๆ แต่หลายพื้นที่น้ำเริ่มลดระดับลง เหลือเพียงพื้นที่ อ.เมือง ที่ยังมีน้ำท่วมขังตามซอยต่างๆ และขณะนี้ฝนตกน้อยลง หากไม่มีฝนตกหนักลงมาอีก คาดว่าน้ำจะลดลงภายใน 1-2 วันนี้
สำหรับท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ยังคงปิดให้บริการเนื่องจากยังมีน้ำท่วมขัง และไม่สามารถระบายน้ำออกได้ เพราะบริเวณสนามบินถือเป็นพื้นที่รับน้ำ
ขณะที่ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.)องค์การมหาชน อาศัยการประมวลผลด้วยระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง โดยแบบจำลองสภาพอากาศ คาดการณ์ว่า ช่วงเวลา 1-2 วันนี้ ภาคใต้ยังมีฝนตกต่อเนื่อง โดยจะเกิดฝนตกหนักที่ จ.นครศรีธรรมราช และจะเคลื่อนตัวไปทาง จ.พัทลุง และ จ.สงขลา
นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการ สสนก.กล่าวว่า ปรากฏการณ์ลานิญา เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีฝนตกมากกว่าปกติ ถ้าเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในช่วงเดือนนี้จะไม่มีฝนตก ขณะที่สิ่งก่อสร้างต่างๆ เช่น ถนนที่สร้างขวางทางน้ำ เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดน้ำท่วม และอาจจะต้องพิจารณาการเจาะท่อใต้ถนนเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่