นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของ นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชาเกิดขึ้นตั้งแต่การที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว ตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งเป็นแรงกดดันให้กัมพูชาในการทำแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร พร้อมทั้งยืนยันว่า ตนไม่เคยปลุกกระแสข้ามชาติ แต่การดำเนินการทุกอย่างเพื่อแสดงสิทธิ์ในการปกป้องอธิปไตยของไทย ซึ่งสามารถยับยั้งการขึ้นทะเบียนเพียงฝ่ายเดียวได้ถึง 2 ครั้ง ขณะเดียวกันที่ผ่านมาการค้าบริเวณชายแดนก็เติบโตอย่างดี ไม่ได้เปลี่ยนสนามการค้าเป็นสนามรบอย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวหา พร้อมยืนยันว่า ตนไม่ได้บริหารงานนโยบายด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศล้มเหลว แต่พยายามใช้แนวทางการเจรจาแบบทวิภาคี
ส่วนกรณีการถือสัญชาตินั้น นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ตนไม่เคยปกปิดว่าเกิดที่ประเทศอังกฤษ และไม่เคยสละสัญชาติอังกฤษ เพราะตนยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ให้พิจารณาจากพฤติกรรมว่า เป็นบุคคลสัญชาติใด ซึ่งที่ผ่านมาตนแสดงเป็นคนสัญชาติไทยมาตลอด รวมถึงการเดินทางเข้าประเทศอังกฤษ ตนก็ขอวีซ่าและไม่เคยมีความลังเลในการถือสัญชาติ
ส่วนกรณีการถือสัญชาตินั้น นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ตนไม่เคยปกปิดว่าเกิดที่ประเทศอังกฤษ และไม่เคยสละสัญชาติอังกฤษ เพราะตนยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ให้พิจารณาจากพฤติกรรมว่า เป็นบุคคลสัญชาติใด ซึ่งที่ผ่านมาตนแสดงเป็นคนสัญชาติไทยมาตลอด รวมถึงการเดินทางเข้าประเทศอังกฤษ ตนก็ขอวีซ่าและไม่เคยมีความลังเลในการถือสัญชาติ