นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวยอมรับว่า มีความเป็นห่วงถึงเหตุการณ์สึนามิถล่มประเทศญี่ปุ่น จะส่งผลกระทบต่อแผนการก่อสร้างโครงการใหม่ของประเทศไทย อาทิ โครงการขยายขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 และโครงการขยายถนน 4 ช่องจราจร ของกรมทางหลวง เนื่องจากโครงการดังกล่าวต้องใช้เงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ ไจก้า แต่ภายหลังประเทศญี่ปุ่นเกิดสึนามิถล่มจึงเกิดภาวะฉุกเฉิน เนื่องจากจะต้องระดมเงินทุนเงินพัฒนาประเทศ
อย่างไรก็ตาม หากการกู้เงินจากไจก้าสุดท้ายกระทบต่อโครงการดังกล่าวนั้น กระทรวงคมนาคมจะส่งหนังสือถึงกระทรวงการคลังว่าได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณาว่า มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแหล่งเงินกู้หรือไม่ หากต้องเปลี่ยนแหล่งเงินกู้จากไจก้า เป็นแหล่งเงินกู้อื่น ก็อาจจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจากไจก้าถือว่าต่ำกว่าที่อื่น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของไจก้าอยู่ที่ร้อยละ 1 เท่านั้น
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างทางสายหลักจาก 2 ช่องจราจรให้เป็น 4 ช่องจราจร ระยะที่ 2 ของกรมทางหลวง มีจำนวน 8 สายทาง ระยะทาง 433 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 5,620 ล้านบาท สำหรับโครงการขยายขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ที่มีวงเงินลงทุนประมาณ 62,500 ล้านบาท ส่วนโครงการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีแดง แม้ว่าจะใช้เงินกู้ไจก้า ก็ไม่ถือว่าได้รับผลกระทบเนื่องจากเป็นโครงการที่ได้ลงนามสัญญาเงินกู้ก่อนหน้านี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม หากการกู้เงินจากไจก้าสุดท้ายกระทบต่อโครงการดังกล่าวนั้น กระทรวงคมนาคมจะส่งหนังสือถึงกระทรวงการคลังว่าได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณาว่า มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแหล่งเงินกู้หรือไม่ หากต้องเปลี่ยนแหล่งเงินกู้จากไจก้า เป็นแหล่งเงินกู้อื่น ก็อาจจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจากไจก้าถือว่าต่ำกว่าที่อื่น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของไจก้าอยู่ที่ร้อยละ 1 เท่านั้น
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างทางสายหลักจาก 2 ช่องจราจรให้เป็น 4 ช่องจราจร ระยะที่ 2 ของกรมทางหลวง มีจำนวน 8 สายทาง ระยะทาง 433 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 5,620 ล้านบาท สำหรับโครงการขยายขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ที่มีวงเงินลงทุนประมาณ 62,500 ล้านบาท ส่วนโครงการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีแดง แม้ว่าจะใช้เงินกู้ไจก้า ก็ไม่ถือว่าได้รับผลกระทบเนื่องจากเป็นโครงการที่ได้ลงนามสัญญาเงินกู้ก่อนหน้านี้แล้ว