นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ วันพรุ่งนี้ ในฐานะคณะกรรมการ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอ 2 แนวทางในการบริหารจัดการน้ำมันปาล์มที่จะมีการนำเข้า จำนวน 1.2 แสนตัน ให้ที่ประชุมพิจารณาใหม่ หลังจากคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้อนุมัติให้นำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ จำนวน 1.2 แสนตัน ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2554 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถนำเข้าได้ เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบที่จะนำเข้าจากมาเลเซีย มีราคาเฉลี่ยที่ 39-40 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นราคาที่ไม่รวมค่าขนส่งและค่าดำเนินการใดๆ และติดปัญหาที่ต้องจำหน่ายไม่เกินราคาลิตรละ 47 บาท โดยภาคเอกชนส่วนใหญ่ไม่สามารถรับต้นทุนที่สูงขึ้นดังกล่าวได้
โดยแนวทางแรกเสนอให้อนุญาตนำเข้าเสรี และห้ามส่งออกชั่วคราว เป็นเวลา 3 เดือน แต่จะต้องจำหน่ายไม่เกินราคาเพดานที่กรมการค้าภายในกำหนดไว้ ขวดละ 47 บาท ส่วนแนวทางที่ 2. คือ ปรับวิธีการนำเข้า 1.2 แสนตัน โดยแยกเป็นการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบแยกไข หรือนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบสำเร็จรูป โดยกำหนดราคาปลีกขวดละไม่เกิน 47 บาท ซึ่งรัฐบาลจะต้องหางบประมาณมาชดเชยส่วนต่าง เพราะขณะนี้ต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบบริสุทธิ์สำเร็จรูปจากมาเลเซีย อยู่ที่ 39 บาทต่อลิตร ขณะที่น้ำมันปาล์มดิบกึ่งบริสุทธิ์ อยู่ที่ 40-41 บาท
โดยแนวทางแรกเสนอให้อนุญาตนำเข้าเสรี และห้ามส่งออกชั่วคราว เป็นเวลา 3 เดือน แต่จะต้องจำหน่ายไม่เกินราคาเพดานที่กรมการค้าภายในกำหนดไว้ ขวดละ 47 บาท ส่วนแนวทางที่ 2. คือ ปรับวิธีการนำเข้า 1.2 แสนตัน โดยแยกเป็นการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบแยกไข หรือนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบสำเร็จรูป โดยกำหนดราคาปลีกขวดละไม่เกิน 47 บาท ซึ่งรัฐบาลจะต้องหางบประมาณมาชดเชยส่วนต่าง เพราะขณะนี้ต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบบริสุทธิ์สำเร็จรูปจากมาเลเซีย อยู่ที่ 39 บาทต่อลิตร ขณะที่น้ำมันปาล์มดิบกึ่งบริสุทธิ์ อยู่ที่ 40-41 บาท