หลังเกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ ทางจ.บุรีรัมย์ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากผลกระทบต่อเหตุการณ์ปะทะไทย-กัมพูชา 2 อำเภอ คือ อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย โดยมี 6 ตำบลติดแนวชายแดน จึงมีการจัดเตรียมหอประชุมและสถานที่ปลอดภัย พร้อมกับรถบรรทุกขนาดใหญ่รองรับการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมกับปรับปรุงหลุมหลบภัยที่ยังคงใช้การได้ 10 จุด
ส่วนชายแดนด้าน จ.จันทบุรี แม้จะไม่มีการปิดด่านในขณะนี้ แต่ก็มีกระแสข่าวว่ากัมพูชาเตรียมปิดด่านที่ติดกับ จ.จันทบุรีและจังหวัดอื่นๆ ส่งผลให้ผู้ประกอบการค้าไทยไม่กล้าเดินทางเข้าไปในกัมพูชาเหมือนเดิม ขณะที่ชาวกัมพูชาเร่งขนสินค้าไทยกลับเข้าประเทศเช่นเดียวกัน และมีข้อมูลว่า การจับจ่ายซื้อสินค้าระหว่างกันมีจำนวนลดลงกว่าครึ่ง
ส่วนชายแดนด้าน จ.จันทบุรี แม้จะไม่มีการปิดด่านในขณะนี้ แต่ก็มีกระแสข่าวว่ากัมพูชาเตรียมปิดด่านที่ติดกับ จ.จันทบุรีและจังหวัดอื่นๆ ส่งผลให้ผู้ประกอบการค้าไทยไม่กล้าเดินทางเข้าไปในกัมพูชาเหมือนเดิม ขณะที่ชาวกัมพูชาเร่งขนสินค้าไทยกลับเข้าประเทศเช่นเดียวกัน และมีข้อมูลว่า การจับจ่ายซื้อสินค้าระหว่างกันมีจำนวนลดลงกว่าครึ่ง
