นายสุเมธ มโหสถ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน แถลงถึงแนวทางการช่วยเหลือแรงงานไทยจากเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงทางการเมืองในสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ว่า ปัจจุบันแรงงานไทยในอียิปต์มีอยู่ 2 กลุ่ม คือ แรงงานไทยที่ทำงานในสาธารณรัฐอียิปต์จำนวน 630 คน ส่วนใหญ่ทำงานในตำแหน่งพนักงานนวดสปา ผู้ปรุงอาหาร และคนงานทั่วไป ซึ่งมีรายได้ส่งกลับประเทศกว่าปีละ 190 ล้านบาท ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังไม่ได้รับรายงานว่ามีแรงงานไทยในอียิปต์ได้รับบาดเจ็บ หรือได้รับผลกระทบ ส่วนแรงงานไทยจำนวน 16 คน ที่ก่อนหน้านี้ตกค้างที่ท่าอากาศยานกรุงไคโร ประสงค์จะเดินทางไปทำงานในประเทศลิเบีย ซึ่งจากการตรวจสอบกับบริษัทจัดหางานรับทราบว่าขณะนี้คนไทยทั้ง 16 คนปลอดภัยดี และอยู่ระหว่างการเดินทาง
สำหรับมาตรการของกรมการจัดหางานในการช่วยเหลือแรงงานไทย เบื้องต้นได้สั่งการชะลอการพิจารณาอนุญาตให้แรงงานไทยเข้าไปทำงานในอียิปต์ หรือการเดินทางผ่านอียิปต์ รวมทั้งประสานงานกับกรมการกงสุลในการดูแลแรงงานไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีแรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนทำงานไทยในต่างประเทศจำนวน 118 คน จึงได้ให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดประสานกับญาติแรงงานไทยดังกล่าว เพื่อแจ้งให้ทราบว่าทุกคนปลอดภัยดี
รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวอีกว่า คนงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนทำงานไทยในต่างประเทศหากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในต่างประเทศ กองทุนจ่ายไม่เกินคนละ 15,000 บาทหากประสงค์เดินทางกลับประเทศก่อนครบกำหนด รวมทั้งจ่ายให้กับแรงงานไทยรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท กรณีค่าสูญเสียการขาดรายได้แต่ไม่ประสงค์เดินทางกลับ โดยจ่ายเป็นค่าที่พัก พาหนะ อาหาร ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็น
สำหรับมาตรการของกรมการจัดหางานในการช่วยเหลือแรงงานไทย เบื้องต้นได้สั่งการชะลอการพิจารณาอนุญาตให้แรงงานไทยเข้าไปทำงานในอียิปต์ หรือการเดินทางผ่านอียิปต์ รวมทั้งประสานงานกับกรมการกงสุลในการดูแลแรงงานไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีแรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนทำงานไทยในต่างประเทศจำนวน 118 คน จึงได้ให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดประสานกับญาติแรงงานไทยดังกล่าว เพื่อแจ้งให้ทราบว่าทุกคนปลอดภัยดี
รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวอีกว่า คนงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนทำงานไทยในต่างประเทศหากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในต่างประเทศ กองทุนจ่ายไม่เกินคนละ 15,000 บาทหากประสงค์เดินทางกลับประเทศก่อนครบกำหนด รวมทั้งจ่ายให้กับแรงงานไทยรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท กรณีค่าสูญเสียการขาดรายได้แต่ไม่ประสงค์เดินทางกลับ โดยจ่ายเป็นค่าที่พัก พาหนะ อาหาร ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็น