แพทย์เตือน! ผิงไฟคลายหนาวอาจป่วยโรคทางเดินหายใจ

นายแพทย์จิโรจ สินธวานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง แนะวิธีดูแลผิวหนังช่วงอากาศหนาว ให้เลี่ยงการอาบน้ำร้อน ใช้สบู่ โฟม หรือครีมผลัดเซลผิวผสมกรดวิตามิน A เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น ควรทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมมอยส์เจอร์ไรเซอร์แทน นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยโรคผิวหนังมากขึ้นในช่วงอากาศหนาว เพิ่มถึงร้อยละ 15 ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยเดิมที่มีอาการโรคผิวหนังเรื้อรัง ทั้งโรคสะเก็ดงูเหลือม สะเก็ดเงิน จะมีอาการรุนแรงมากขึ้น ส่วนโรคที่เกี่ยวกับเชื้อไวรัส เช่น งูสวัด พบมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากอากาศหนาวทำให้เชื้อไวรัสเติบโตได้ดี
ด้านสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ เตือนประชาชนผิงไฟไล่ความหนาวเย็น ให้ระวังการสูดดมควันไฟจำนวนมาก อาจทำให้เจ็บป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะเด็กเล็ก คนชรา ที่มีความเสี่ยง ขณะที่ความหนาวเย็นทวีความรุนแรง โดยเฉลี่ยกลางวันจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 7-11 องศาเซลเซียส ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตภูพาน ต้องผิงไฟตลอดทั้งวัน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 สั่งทุกโรงเรียนสำรวจเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนเครื่องกันหนาว โดยเฉพาะโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร หลังอากาศหนาวเย็นลง ล่าสุดอุณหภูมิอยู่ที่ 11-12 องศาเซลเซียส พร้อมย้ำจัดเวรยามเฝ้าระวังป้องกันอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นในช่วงหน้าหนาว
ที่ จ.อุบลราชธานี ประกาศให้เป็นเขตประสบภัยพิบัติลมหนาวทั้ง 25 อำเภอ มูลนิธิสาธารณสุขกุศล ส่งผ้าห่มไปช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยตามชายแดน ซึ่งอยู่ในพื้นที่สูง กว่า 12,000 ผืน แต่ยังมีประชาชนที่ยังขาดแคลนผ้าห่ม อีกกว่า 140,000 คน ต้องก่อไฟผิงเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายตลอดทั้งวัน