นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 6.7-12 ชะลอลงจากปี 53 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.3 ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการส่งออกในปีนี้ เป็นผลมาจากทิศทางเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 4-4.5 ถึงแม้ว่าจะชะลอลงจากปีก่อน แต่การส่งออกไทยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกในตลาดเอเชีย ซึ่งยังมีทิศทางขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง และเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยในปีนี้จะชะลอตัวลงมากในตลาดส่งออกหลัก โดยเฉพาะ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามอัตราแลกเปลี่ยนที่มีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีทิศทางสอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค โดยมีการคาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 24.3-30.1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือแข็งค่าขึ้นอีกร้อยละ 1.5-3.4 รวมทั้งต้นทุนสินค้าที่จะปรับสูงขึ้นจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.5 การขาดแคลนวัตถุดิบจากผลกระทบของน้ำท่วม และแนวโน้มราคาพลังงานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามอัตราแลกเปลี่ยนที่มีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีทิศทางสอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค โดยมีการคาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 24.3-30.1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือแข็งค่าขึ้นอีกร้อยละ 1.5-3.4 รวมทั้งต้นทุนสินค้าที่จะปรับสูงขึ้นจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.5 การขาดแคลนวัตถุดิบจากผลกระทบของน้ำท่วม และแนวโน้มราคาพลังงานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมัน